ผู้แทนภาคธุรกิจพบธนาคารแห่งประเทศไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 31, 2011 14:35 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 35/2554

วันนี้ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ และผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เชิญผู้บริหารจากภาคธุรกิจ ได้แก่ ผู้แทนจากหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย สมาคมผู้นาเข้าและผู้ส่งออกฯ และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว มาร่วมพบปะสนทนา เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจซึ่งเป็นกาลังสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งจัดเป็นประจาทุกปี สรุปผลการหารือ ดังนี้

1. ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง โดยในครึ่งหลังของปี 2554 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาคเอกชน แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านแรงกดดันเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปที่ทรงตัว ขณะที่เศรษฐกิจเอเชียยังขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายภายในประเทศและการค้าขายระหว่างกันมากขึ้น การส่งออกของไทยจึงยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันพึ่งพาตลาดเอเชียเป็นหลัก การดาเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไปยังมีความจาเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

2. การเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ ด้านการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี ด้านระบบการชาระเงิน และด้านสถาบันการเงิน

2.1 ด้านการเคลื่อนย้ายเงินทุนเสรี โดยส่งเสริมให้ดาเนินการอย่างเสรีมากขึ้น สนับสนุนการรวมตัวและการพัฒนาตลาดทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน การร่วมสร้างมาตรฐานตลาดทุนในรูปแบบของ ตราสารและผู้เล่นในตลาด ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายเงินทุนให้เสรีมากขึ้น โดยการยกเลิกหรือผ่อนคลายกฎข้อบังคับที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างต่อเนื่อง และคานึงถึงความพร้อมของระบบเศรษฐกิจรวมทั้งเสถียรภาพภายในและภายนอกประเทศด้วย นอกจากนี้ ธปท.จะมีการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถดาเนินการได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์

ธปท.ได้จัดทาแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2554 เพื่อสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจไทย การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมทั้งการเปิดเสรีในประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.2 ด้านระบบการชาระเงิน ธปท.ได้จัดทาแผนการพัฒนาระบบการชาระเงินเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยครอบคลุมด้านการชาระค่าสินค้าและบริการ การโอนเงิน การชาระเงิน ในตลาดทุน และระบบการชาระเงินรายย่อย เพื่อเชื่อมโยงและรองรับธุรกรรมที่เกิดจากการเปิดเสรีในภูมิภาค ให้เกิดความสะดวก มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอุปสรรคในการดาเนินธุรกิจ

2.3 ด้านการธนาคาร ซึ่งการเปิดเสรีภาคการธนาคารจะเป็นไปตามระดับการพัฒนาของระบบการเงินของประเทศสมาชิก เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกับระบบการชาระเงิน และตอบสนองอานวยความสะดวกต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจ และประชาชน โดยคานึงถึงความเข้มแข็งของระบบธนาคารพาณิชย์และเสถียรภาพของระบบการเงินด้วย

3. ภาคธุรกิจได้หารือแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของภาคธุรกิจเพื่อให้ได้ประโยชน์จากโอกาสของการรวมตัวในภูมิภาค และปรับตัวต่อความท้าทาย โดยให้ความสาคัญกับการมีบริการทางการเงินที่สอดคล้องกับประเภทและธุรกิจของเอกชนและประชาชน และให้มีการดาเนินการที่สอดคล้องของหน่วยงานต่างๆ ในภาครัฐ

การหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการเงิน ซึ่งความเข้าใจอันดีของภาคธุรกิจมีความสาคัญและจาเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ