ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 19 ตุลาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 19, 2011 11:25 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 42/2554

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง.ในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

เศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงจากปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยูโรที่ยังไม่มีทางออกชัดเจน ส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงจากความกังวลว่าปัญหาจะลุกลามเข้าสู่ภาคการธนาคารและภาคเศรษฐกิจจริง สำหรับสหรัฐฯ ตัวเลขล่าสุดสะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง และตลาดประเมินว่าความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีมากขึ้น ในภูมิภาคเอเชีย การส่งออกของบางประเทศเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกแต่อุปสงค์ในประเทศที่ยังเติบโตได้และแรงกระตุ้นจากภาครัฐที่สามารถเข้ามาเพิ่มเติมเนื่องจากฐานะการคลังยังดีอยู่จะเป็นปัจจัยช่วยบรรเทาผลกระทบจากประเทศอุตสาหกรรมหลักต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคได้ระดับหนึ่ง

ข้อมูลเบื้องต้นของไตรมาสที่ 3 ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัว แต่เริ่มมีสัญญาณของการแผ่วลงของการส่งออกสอดคล้องกับเศรษฐกิจต่างประเทศที่อ่อนแอลง ในขณะเดียวกัน การค้าในภูมิภาคและอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะแรงกระตุ้นจากมาตรการของรัฐบาล จะช่วยจำกัดความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นมีผลรุนแรงและทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนหยุดชะงัก ซึ่งจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก แต่การบูรณะซ่อมแซมความเสียหายจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ให้ทยอยกลับมาเติบโตได้ในระยะต่อไป

แรงกดดันด้านราคายังมีอยู่จากอุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัว แม้ต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน ที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก และการคาดการณ์เงินเฟ้อในประเทศที่เริ่มทรงตัวจะช่วยลดโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อจะเร่งขึ้นในระยะต่อไปได้บ้าง แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะต่อไปจากการใช้จ่ายที่จะเร่งตัวขึ้น ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันน่าจะช่วยดูแลแรงกดดันด้านราคาและยังเอื้อต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจภายใต้ภาวะที่ปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกมีมากขึ้น ในขณะที่ปัญหาและผลกระทบของอุทกภัยต่อภาพรวมของเศรษฐกิจยังไม่ยุติ คณะกรรมการฯ จึงมีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.50 โดย 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะเฝ้าระวังสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสมต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1 โทร: 0-2283-5621, 0-2283-6186

e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ