แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือเดือนกันยายน และไตรมาส 3 ปี 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 2, 2011 10:37 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 12 /2554

ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนกันยายน 2554 ชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามการลดลงของภาคเกษตร อุตสาหกรรมการผลิต และการลงทุน อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อย การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาคการค้า การส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐยังขยายตัวดี อัตราเงินเฟ้อปรับลดลงเล็กน้อยจากผลของมาตรการดูแลราคาพลังงานในประเทศของรัฐบาล การว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ เงินฝากและเงินให้สินเชื่อขยายตัวดี

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือ มีดังนี้

อุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัว ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.6 สะท้อนการระมัดระวังการใช้จ่ายของประชาชนจากปัญหาอุทกภัย โดยกลุ่มสินค้าคงทนชะลอตัวลง ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันยังคงขยายตัว ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 11.7 ตามการลดลงของภาคก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทจากเหตุการณ์น้ำท่วม สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐขยายตัวร้อยละ 29.5 ทั้งงบประจำและงบลงทุน ตามการเร่งเบิกจ่ายเงินก่อนสิ้นปีงบประมาณ

การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือมีมูลค่า 307.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 ตามการส่งออกผ่านด่านชายแดนที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกตลาดสำคัญ ขณะที่การนำเข้าขยายตัวจากการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง สินค้าทุน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค

ภาคการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 5.9 ตามปริมาณผลผลิตอุตสาหกรรมสำคัญหลายชนิดที่ลดลง โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและคำสั่งซื้อที่ลดลง อาทิ ไดโอด ไอซี ทรานฟอร์เมอร์และมอเตอร์ การผลิตหมวดวัสดุก่อสร้างหดตัวตามภาวะงานก่อสร้าง อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมผลิตอาหารปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน และเซรามิกประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารขยายตัวดีตามคำสั่งซื้อของลูกค้ากลุ่มยุโรป ด้านรายได้เกษตรกรหดตัวร้อยละ 11.2 จากทั้งด้านผลผลิตและราคา โดยผลผลิตพืชสำคัญลดลงร้อยละ 2.3 จากปัญหาอุทกภัยทำให้ผลผลิตพืชสำคัญลดลง อาทิ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ด้านราคาพืชผลลดลงร้อยละ 9.1 ตามราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่คุณภาพลดลงจากปัญหาความชื้น และราคาลำไยลดลงด้วยผลผลิตมากกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี ราคาข้าวเจ้านาปีปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการเร่งจัดกิจกรรมประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐก่อนสิ้นปีงบประมาณ

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากร้อยละ 5.73 เดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 5.21 โดยเป็นผลจากมาตรการดูแลราคาพลังงานของรัฐบาล แต่ยังอยู่ในระดับสูงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผักสด ราคาปรับสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตน้อยลงและค่าขนส่งแพงขึ้นจากปัญหาอุทกภัย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 3.98

การว่างงานเดือนสิงหาคม 2554 อัตราการว่างงานอยู่ระดับต่ำเพียงร้อยละ 0.6 สอดคล้องกับเครื่องชี้จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเดือนกันยายน 2554 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ประกอบด้วยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ภาคบังคับ) และมาตรา 39 (ภาคสมัครใจ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 และร้อยละ 14.2 ตามลำดับ

เงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2554 มีจำนวน 432,069 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.8 ยอดเงินฝากลดลงจากสิ้นเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย จากการถอนเงินของส่วนราชการ ผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไป เพื่อใช้ในโครงการของภาครัฐ หมุนเวียนในธุรกิจและใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตามลำดับ ด้านเงินให้สินเชื่อมีจำนวน 380,244 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 14.7 ตามความต้องการใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจ และสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล สำหรับสัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 88.0

สรุปภาพรวมไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือชะลอตัวจากความกังวลในเรื่องผลกระทบของปัญหาอุทกภัยที่รุนแรงกว่าทุกปีและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่มีแนวโน้มชะลอตัว โดยอุตสาหกรรมการผลิต การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รายได้ของเกษตรกรปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ยังมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ การท่องเที่ยว การค้าและการส่งออกที่ขยายตัวดี อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นตามการส่งผ่านต้นทุนไปยังสินค้าอื่นอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : สุรินทร์ อินต๊ะชุ่ม

โทร. 0-5393 -11 66 e-mail : Surini@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ