ฉบับที่ 50/2554
นางสาวนวพร มหารักขกะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ปี 2554 มีเสถียรภาพ สินเชื่อขยายตัวต่อเนื่อง สภาพคล่องตึงตัวขึ้น สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง มีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับสูงดังรายละเอียด ต่อไปนี้
ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ส่งผลให้สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 ขยายตัวร้อยละ 17.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 15.1 ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจ (สัดส่วนร้อยละ 70.9 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 17.3 เพิ่มขึ้นทั้งสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจ SME ที่ร้อยละ 18.2 และร้อยละ 16.5 ตามลำดับ สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในภาคการพาณิชย์ สาธารณูปโภค ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิต สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภค (สัดส่วนร้อยละ 29.1 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 17.4 จากระยะเดียวกันปีก่อนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคล
เงินฝากรวมตั๋วแลกเงิน (B/E) ขยายตัวชะลอลงเล็กน้อย โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 ขยายตัวร้อยละ 13.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 14.1 ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของเงินฝากและ B/E ที่น้อยกว่าสินเชื่อ ส่งผลให้สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ตึงตัวขึ้น โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวม B/E เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 89.7
จากการบริหารความเสี่ยงและการดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จึงลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2554 อีก 16.2 พันล้านบาท เหลือ 268.5 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน Gross NPL และ Net NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงเหลือร้อยละ 2.8 และร้อยละ 1.4 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจมีสัดส่วนNPL ลดลงเหลือร้อยละ 3.1 และสินเชื่อ SME มีสัดส่วน NPL ลดลงเหลือร้อยละ 4.2 จากการลดลงในเกือบทุกภาคธุรกิจ ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคมีสัดส่วน NPL ลดลงเช่นกันเหลือร้อยละ 2.0 สำหรับสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Delinquent Loan) มีสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมทรงตัวที่ร้อยละ 2.1
ในไตรมาส 3 ปี 2554 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 37.4 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 7.8 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้เงินปันผลที่ลดลงและการกันสำรองที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ในขณะที่มีกำไรสูงให้พร้อมรับกับความท้าทายในอนาคต ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset : ROA) ลดลงจากร้อยละ 1.5 ในไตรมาสก่อน เหลือร้อยละ 1.2 อย่างไรก็ดี รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิยังคง เพิ่มขึ้นตามปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.6
ผลกำไรที่มีอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 3ปี 2554 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Tier-1 ratio) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15.7 และร้อยละ 12.4 ตามลำดับ
โดยสรุปแล้ว ระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและคุณภาพสินเชื่อ ที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ยังคงมีความเปราะบางและจากอุทกภัยครั้งรุนแรงภายในประเทศ
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย