ฉบับที่ 13/2555
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน แถลงว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในปี พ.ศ. 2554 ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ สกง. 12/2555 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. วงเงินให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้น 300,000 ล้านบาท เป็นส่วนของ ธปท. ไม่เกิน 210,000ล้านบาท และสถาบันการเงิน (สง.) สมทบไม่น้อยกว่า 90,000 ล้านบาท สัดส่วนการให้ความช่วยเหลือ ธปท.ไม่เกินร้อยละ 70 และ สง. ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30
2. ให้ความช่วยเหลือผ่านธนาคารพาณิชย์ สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
3. กลุ่มเป้าหมาย
3.1 ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา
3.2 บุคคลธรรมดาที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน สถานที่ประกอบอาชีพ หรือสถานประกอบธุรกิจหรือการค้าของตน ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดปี พ.ศ. 2554 ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมข้อมูล เมื่อ ธปท. ได้รับข้อมูลแล้วจะแจ้งให้ สง. ทราบต่อไป)
4. ระยะเวลาความช่วยเหลือไม่เกิน 5 ปี โครงการสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 โดย สง. จะต้องยื่นคำขอกู้ยืมเงินต่อ ธปท. ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556
5. วงเงินให้ความช่วยเหลือ SME รายละไม่เกิน 30 ล้านบาท บุคคลธรรมดารายละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ สง.
6. อัตราดอกเบี้ยที่ ธปท. คิดจาก สง. ร้อยละ 0.01 ต่อปี โดยให้ สง. คิดจาก SME และบุคคลธรรมดา ในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี
7. ธปท. จะกำหนดวงเงินที่จะจัดสรรให้แก่ สง. แต่ละแห่ง เพื่อให้สามารถกระจายความช่วยเหลือไปถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยฯ ในเขตพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง (คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์หลังกระทรวงการคลัง แจ้งเขตพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน)
SME และบุคคลธรรมดาที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในปี พ.ศ.2554 ที่สนใจสามารถติดต่อโดยตรงกับ สง. ต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น รายละเอียดประกาศฯ สามารถเรียกดูได้จาก website ของ ธปท. ที่ http://www.bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย