ฉบับที่ 16/2555
นางสุธาศินี นิมิตกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน สายตลาดการเงิน เปิดเผยว่าตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 มีนาคม 2555 โดยมีวงเงินจัดสรร 210,000 ล้านบาท และกำหนดให้สถาบันการเงินยื่นขอรับจัดสรรวงเงินภายในวันที่ 5 มีนาคม 2555 นั้นบัดนี้ได้มีสถาบันการเงิน 21 แห่งยื่นขอรับจัดสรรวงเงิน รวม 366,399 ล้านบาท ตามรายละเอียดดังนี้
กลุ่ม วงเงินที่สถาบันการเงินขอรับจัดสรร (ล้านบาท) SMEs บุคคลธรรมดา รวม 1. ธนาคารพาณิชย์ไทย (13 แห่ง) 153,971 116,538 270,509 2. สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ (3 แห่ง) 426 - 426 3. สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (5 แห่ง) 10,850 84,614 95,464 รวม 165,247 201,152 366,399
เนื่องจากวงเงินที่สถาบันการเงินขอรับจัดสรรมากกว่าวงเงินในส่วนของ ธปท. อยู่ 156,399 ล้านบาท เพื่อกระจายให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 ทั้งที่เป็น SMEs และบุคคลธรรมดา ในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามที่ระทรวงการคลังกำหนด ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและเหมาะสม สถาบันการเงินแต่ละแห่งได้รับการจัดสรรวงเงินอย่างเป็นธรรม ในรอบแรก ธปท. จึงพิจารณาจัดสรรสัดส่วนวงเงิน 210,000 ล้านบาท ให้สถาบันการเงินแยกเป็น SMEs ร้อยละ 45 และบุคคลธรรมดาร้อยละ 55 โดย
- ธนาคารพาณิชย์ไทย ได้รับ 152,800 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72.76 ของวงเงินจัดสรร
- สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ได้รับ 240 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.12 ของวงเงินจัดสรร
- สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้รับ 56,960 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27.12 ของวงเงินจัดสรร
ทั้งนี้ ธปท. ได้แจ้งผลการจัดสรรวงเงินให้สถาบันการเงินทราบแล้วเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2555 โดยสถาบันการเงินสามารถเบิกเงินกู้ที่ ธปท. ได้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป และ ธปท. จะมีการทบทวนการจัดสรรวงเงินให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งใหม่ในกรณีที่สถาบันการเงินเบิกใช้วงเงินที่ได้รับจัดสรรไม่เต็มจำนวน และ/หรือสถาบันการเงินส่งคืนเงินที่เบิกใช้ให้ ธปท. แล้ว และมีสถาบันการเงินแจ้งความต้องการขอใช้วงเงินเพิ่ม โดยทบทวนเป็นรายไตรมาสซึ่งกำหนดทบทวนวงเงินในครั้งถัดไปภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2555
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย