ฉบับที่ 28/2555
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอเรียนว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับการพบธนบัตรปลอม ในบางจังหวัดอยู่ในขณะนี้นั้น ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพบว่าการใช้ธนบัตรปลอมเกิดขึ้นในช่วงเวลาหรือสถานที่ที่มีแสงน้อย เช่น โพล้เพล้หรือพลบค่ำ เป็นการใช้ธนบัตรปลอมชนิดราคาสูงซื้อสินค้ามูลค่าต่ำเพื่อหวังเงินทอน และนำธนบัตรปลอมสอดแทรกปะปนรวมกับธนบัตรจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบในระหว่างใช้ธนบัตร ทั้งนี้ ธปท. ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว จึงขอแจ้งเตือนมายังประชาชนให้ระมัดระวังการรับธนบัตรภายใต้สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ข้างต้น
สำหรับธนบัตรที่หมุนเวียนอยู่ในขณะนี้มีลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่สังเกตได้ง่ายด้วย 3 วิธีได้แก่ สัมผัส ยกส่อง พลิกเอียง ดังนี้
1. เมื่อสัมผัสเนื้อกระดาษจะมีความเหนียว แกร่งทนต่อการพับดึงและการฉีกขาด
2. สัมผัสลายเส้นนูนที่ตัวเลขแจ้งราคามุมขวาบนของธนบัตรและบริเวณคำว่า “รัฐบาลไทย” เมื่อใช้ปลายนิ้วสัมผัสจะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์
1. เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่าง บริเวณพื้นที่ว่างด้านขวาของธนบัตรจะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ซึ่งอยู่ในเนื้อกระดาษอย่างชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมรูปลายไทยขนาดเล็กที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ
2. บริเวณด้านซ้ายของธนบัตรใกล้กับพระครุฑพ่าห์ มีแถบสีโลหะขนาดเล็กฝังอยู่ในเนื้อ กระดาษตามแนวตั้ง บนแถบมีตัวเลขและอักษรขนาดเล็กแจ้งชนิดราคาธนบัตรฉบับนั้น
1. สำหรับธนบัตรชนิดราคา 500 และ 1000 บาท ตัวเลขอารบิกแจ้งราคามุมขวาบนจะเปลี่ยนสี สลับจากสีหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่งเมื่อเปลี่ยนมุมมอง โดยธนบัตรชนิดราคา 1000 บาท จะเปลี่ยนจากสีทอง เป็นสีเขียว และธนบัตรชนิดราคา 500 บาท เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วง
2. สำหรับธนบัตรชนิดราคา 100 500 และ 1000 บาท ให้สังเกตผนึกแถบฟอยล์สีเงินที่แนบเป็นเนื้อเดียวกับกระดาษ ซึ่งจะมีความวาวเมื่อพลิกเอียงธนบัตรไปมา
ประชาชนสามารถชมวิธีตรวจสอบธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ และวีดิทัศน์แนะนำวิธีสังเกตธนบัตร ได้ที่ www.bot.or.th ในหัวข้อ ธนบัตร “วิธีตรวจสอบธนบัตร”
ทั้งนี้ หากมีผู้พบเห็นหรือสงสัยว่ามีผู้นำธนบัตรปลอมมาใช้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้ที่พบหรือโทรศัพท์แจ้ง ธปท. ที่หมายเลข 0 2356 7990 และ 0 2356 7987 โดยผู้แจ้งเบาะแสธนบัตรปลอม มีสิทธิ์ได้รับเงินสินบนร้อยละ 30 ของราคาหน้าธนบัตรปลอมหรือราคาอุปกรณ์ที่จับกุมได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยยับยั้งการแพร่กระจายต่อไป
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย