ดร. เสาวณี จันทะพงษ์**
ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ
นายกรวิทย์ ตันศรี**
ส่วนเศรษฐกิจภาค สภอ.
ธนาคารแห่งประเทศไทย
แรงงานเป็นปัจจัยการผลิตและเป็นทุนมนุษย์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาในทุกระดับ ทั้งระดับส่วนย่อย (Micro) ของระบบเศรษฐกิจ คือแรงงานในภาคการผลิตทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกรรมและบริการ และระดับมหภาค (Macro) ของประเทศ กล่าวคือถ้าแรงงานในภาคการผลิตต่างๆ ของประเทศมีความรู้ความสามารถ มีทักษะและศักยภาพสูงจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตและประสิทธิผลต่อการผลิตให้สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ จะเห็นได้ว่าแรงงานเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญและมีคุณค่าต่อการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งด้านปริมาณและคุณภาพได้ถูกกล่าวถึงอย่างมากและมีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเป็นปัญหาทางโครงสร้างที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศในระยะยาว เนื่องจากการจัดการด้านแรงงานมีความซับซ้อน และมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในหลายมิติ ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง และกลุ่มและสถาบันทางสังคมหลากหลายทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และแรงงาน ดังนั้นทุกภาคส่วนของสังคมจำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจในสาเหตุอย่างถ่องแท้ทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างของสภาพปัญหา เพื่อสามารถหาแนวทางแก้ไขได้อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของแรงงานไทยในอนาคตและคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงานของประเทศโดยรวม
ในบทนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย ส่วนแรกกล่าวถึงความหมายของการขาดแคลนแรงงานและภาพรวมสภาพปัญหาการขาดแคลนแรงงานของไทย ซึ่งจะนำเสนอภาพรวมตลาดแรงงานไทยที่สะท้อนปัญหาการขาดแคลนแรงงานของไทยและสภาพปัญหาการขาดแคลนแรงงานของไทยในปัจจุบันที่ได้จากผลการสำรวจสถานการณ์การจ้างงานปี 2554 จัดทำโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนที่ 2 สาเหตุของการขาดแคลนแรงงานของไทย ส่วนที่ 3 แนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
การขาดแคลนแรงงาน*(1) หมายถึง ภาวะที่อุปสงค์แรงงานมีมากกว่าอุปทานแรงงานภายใต้ค่าจ้างและเงื่อนไขการจ้างงาน ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ หรือ การขยายตัวของอุปสงค์ในตลาดแรงงานสูงกว่าการขยายตัวของอุปทาน นอกจากการขาดแคลนในเชิงปริมาณแล้วยังมีการขาดแคลนในเชิงคุณภาพ กล่าวคือ ผู้ประกอบการไม่สามารถหาแรงงานที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการได้ (Qualified wo rker) เนื่องจากทักษะของแรงงานไม่ตรงต่อความต้องการ ภายใต้เงื่อนไขการจ้างงานหนึ่งๆ 1.2 ภาพรวมตลาดแรงงานไทยที่สะท้อนการขาดแคลนแรงงานของไทย
เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยในช่วงปี 2549 - 2553 เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.6 และปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวค่อนข้างดีในภาพรวมในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 7.3 การที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่องจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศส่งผลให้ภาคการผลิตต้องการกำลังแรงงานมารองรับมากขึ้นเป็นลำดับ
ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ไทยมีประชากรที่มีอายุมากกว่า 15 ปี หรืออยู่ในวัยทำงาน 54.1 ล้านคน เป็นกำลังแรงงาน*(2) 39.6 ล้านคน ซึ่งแบ่งเป็นผู้มีงานทำ*(3) 39.3 ล้านคน อยู่ในภาคเกษตรกรรมจำนวน 16.1 ล้านคนหรือร้อยละ 40.7 ของผู้มีงานทำทั้งหมด ภาคบริการจำนวน 9.8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 24.8 ภาคอุตสาหกรรมจำนวน 5.2 ล้านคน หรือร้อยละ 13.2 ผู้ว่างงานรอฤดูกาล 4.4 หมื่นคน และผู้ว่างงาน 2.6 แสนคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2 จาก 2.31 แสนคน
ตลาดแรงงานไทยมีลักษณะสำคัญที่สะท้อนปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่ 5 ประการหลัก คือ
1. ตลาดแรงงานไทยประสบปัญหาแรงงานตึงตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนจากอัตราการว่างงานในไทยที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550 โดย ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีอัตราการว่างงานเพียงร้อยละ 0.6 โดยอัตราการว่างงานของแรงงานไร้ฝีมือ*(4) (Unskilled lab our) ต่ำสุดอยู่ที่ร้อยละ 0.42 รองลงมาคือ แรงงานกึ่งมีทักษะ (Semi-skilled labour) และแรงงานที่มีทักษะ (Skilled labo ur) อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ในช่วงระหว่างปี 2543 - 2553 การมีส่วนร่วมของแรงงานลดลงโดยกำลังแรงงานของไทยขยายตัวในระดับต่ำเพียงร้อยละ 1.5 ต่อปี ขณะเดียวกันอัตราการทำงานต่ำกว่า ระดับ*(5) และอัตราการว่างงานรอฤดูกาลของไทยลดลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ หากพิจารณาถึงด้านชั่วโมงการทำงาน พบว่าชั่วโมงการทำงานของผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรที่ทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 จะเห็นได้ว่าดัชนีทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานล้วนแสดงถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานของตลาดแรงงานไทย
2. ตลาดแรงงานไทยมีสัดส่วนแรงงานไร้ฝีมือถึงกว่าร้อยละ 80 และเป็นผู้มีงานทำที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 70 *(6) สะท้อนโครงสร้างการผลิตของไทยที่ยังอาศัยแรงงานเข้มข้น ส่งผลให้มีความต้องการแรงงานทักษะต่ำในราคาค่าจ้างถูกในระดับสูงซึ่งแสดงนัยว่าระดับเทคโนโลยีการผลิตของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับความต้องการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก โดย ณ เดือนธันวาคม 2010 มีแรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียนถูกกฎหมายประมาณ 1.3 ล้านคน*(7) และคาดว่ามีแรงงานต่างด้าวที่ไม่จดทะเบียนอีกเป็นจำนวนมาก ตลาดแรงงานไทยยังใช้แรงงานที่มีอายุ 30 ปี ขึ้นไปในสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 70 และเป็นกลุ่มที่มีอัตราการว่างงานต่ำกว่ากลุ่มผู้มีงานทำที่มีอายุระหว่าง 15-29 ปี ซึ่งจะส่งผลให้การหาแรงงานมาทดแทนแรงงานในกลุ่มอายุนี้ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์มากทำได้ยากในระยะต่อไป (ตาราง 1)
ช่วงอายุ กำลังแรงงาน สัดส่วน ผู้ว่างงาน สัดส่วน อัตราการว่างงาน 2542 2552 2542 2552 2542 2552 2542 2552 2542 2552 15-17 874,381 606,911 2.65 1.56 94,107 28,778 9.61 6.31 10.76 4.74 18-24 5,275,672 4,547,435 15.98 11.67 382,083 190,739 39.00 41.82 7.24 4.19 25-29 4,902,538 4,651,460 14.85 11.94 163,901 98,852 16.73 21.67 3.34 2.13 30-34 4,674,690 4,869,009 14.16 12.49 103,075 47,160 10.52 10.34 2.20 0.97 35-39 4,385,243 5,039,253 13.28 12.93 77,486 28,558 7.91 6.26 1.77 0.57 40-44 3,950,950 5,028,311 11.97 12.90 60,437 20,484 6.17 4.49 1.53 0.41 45-49 3,151,739 4,592,087 9.55 11.78 36,579 17,487 3.73 3.83 1.16 0.38 50-54 2,380,657 3,809,733 7.21 9.78 36,361 14,298 3.71 3.13 1.53 0.38 55-59 1,682,628 2,651,992 5.10 6.81 18,109 7,152 1.85 1.57 1.08 0.27 60-64 974,195 1,518,128 2.95 3.90 3,914 837 0.40 0.18 0.40 0.06