ฉบับที่ 11/2555
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือ เดือนกันยายน 2555 ขยายตัวต่อเนื่อง จากแรงขับเคลื่อนของการบริโภค การลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐ และการส่งออกโดยเฉพาะผ่านด่านชายแดน อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าส่งออกบางประเภทลดลงจากผลของวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ด้านเสถียรภาพราคา อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นตามราคาพลังงาน การจ้างงานขยายตัว สินเชื่อและเงินฝากขยายตัวสูงต่อเนื่อง รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือ มีดังนี้
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวดี จากภาวะอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อที่เอื้ออำนวย รายได้เกษตรกรและการท่องเที่ยวที่อยู่ในเกณฑ์ดี แต่เริ่มมีอัตราชะลอลงเล็กน้อยหลังจากเร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้า จากผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายจากความกังวลด้านภาวะเศรษฐกิจโลกอาจกระทบรายได้ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 12.5 ตามการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และการนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ การลงทุนในระยะต่อไป มีการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 541.6 ล้านบาท เพื่อผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดมีจำนวน 20,818.2 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.6 ตามการเร่งเบิกจ่าย ประกอบกับโครงการตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างมีความคืบหน้ามาก
การส่งออกมีมูลค่า 374.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 21.7 จากการส่งออกผ่านด่านชายแดนขยายตัวดีทุกตลาด ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับการส่งออกไปตลาดยุโรปหดตัว โดยเฉพาะสินค้าเครื่องประดับและเซรามิก ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 146.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. หดตัวร้อยละ 3.0 ตามการลดลงของการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุน เช่น ส่วนประกอบฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เพชรยังไม่เจียระไน โลหะและผลิตภัณฑ์ ประกอบกับการนำเข้าสินค้าผักและผลไม้ผ่านด่านชายแดนลดลง
ภาคการผลิตขยายตัว โดยภาคเกษตรผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ตามข้าวนาปีเป็นสำคัญ เนื่องจากไม่ประสบปัญหาอุทกภัยเช่นปีก่อน ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผลผลิตลดลงเพราะเกษตรกรส่วนหนึ่งหันปลูกพืชอื่น เช่น อ้อยโรงงาน สำหรับปริมาณสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ยังออกสู่ตลาดมาก ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นร้อยละ 3.8 ตามราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากผลผลิตลดลงจากปีก่อน ขณะที่ราคาข้าวเปลือกอยู่ในเกณฑ์ดีจากผลของโครงการรับจำนำ และราคาสับปะรดปรับดีขึ้นจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ทำให้รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 7.1
ด้านการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง จากการจัดประชุมสัมมนาและจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ในระยะต่อไป อัตราการจองห้องพักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่เชียงใหม่ในช่วงปลายปี ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.5 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ส่งผลให้การผลิตสินค้าเพื่อส่งออกบางประเภทลดลง เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เลนส์กล้องถ่ายรูป เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ และเซรามิก อย่างไรก็ตาม การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวเนื่องจากมีการโอนสายการผลิตจากต่างประเทศมาผลิต รวมทั้งการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปและเครื่องดื่มขยายตัวดี
เสถียรภาพในประเทศอัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นเป็นร้อยละ 2.45 ตามราคาสินค้าหมวดพลังงาน ประกอบกับราคาบุหรี่และสุราปรับเพิ่มตามอัตราภาษีสรรพสามิตการจ้างงานในเดือนสิงหาคม 2555 ขยายตัวตามการจ้างงานภาคเกษตร และจำนวนผู้ประกันสังคมเดือนกันยายน 2555 ยังขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
เงินให้สินเชื่อเงินให้สินเชื่อของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 มียอดคงค้าง 454,195 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.8 ตามการขยายตัวของสินเชื่อประเภทค้าปลีก/ค้าส่ง สหกรณ์ออมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง ขนส่ง ธุรกิจโรงแรม และสินเชื่อเช่าซื้อ ด้านเงินฝากมีจำนวน 529,648 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 22.4 จากการเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากจูงใจเพื่อขยายฐานลูกค้าและรองรับการขยายสินเชื่อ สำหรับสัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากร้อยละ 85.8 ต่ำกว่าเดือนก่อน
ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ขยายตัวดีต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่เริ่มประสบปัญหาอุทกภัย โดยการอุปโภคบริโภคขยายตัวจากแรงกระตุ้นผ่านมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ รวมทั้งภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย ส่งผลให้การจำหน่ายสินค้าปลีกและค้าส่งเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหมวดยานยนต์ การลงทุนขยายตัวมากตามภาวะอสังหาริมทรัพย์และมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง การเบิกจ่ายเงินงบประมาณผ่านคลังจังหวัดเพิ่มขึ้นจากการเร่งเบิกจ่าย ด้านการส่งออกขยายตัวดีโดยเฉพาะผ่านด่านชายแดน ส่วนการส่งออกไปยุโรปลดลง ด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและการเกษตรขยายตัว การท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดีจากการจัดงานประชุมสัมมนาและมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อชะลอลงตามราคาอาหารสด อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ เงินให้สินเชื่อและเงินฝากขยายตัวต่อเนื่อง
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทวีศักดิ์ ใจคำสืบ
โทร. 0-5393-1162
e-mail : Thaveesc@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย