สุรศักดิ์ สุพรรณพงศ์
ผู้ชำนาญการ ส่วนคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้ให้นายหน้าหรือผู้แทนของตนเอง ออกไปว่าจ้างให้นักศึกษา สาวโรงงาน ลูกจ้างตามสถานบริการ หรือประชาชนทั่วไปในชนบทที่ห่างไกล ไปเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ ประเภทเงินฝากออมทรัพย์ พร้อมทั้งให้จัดทำบัตรเอทีเอ็มควบคู่กันไปด้วย โดยกลุ่มมิจฉาชีพที่ว่าจ้างจะยึดสมุดคู่ฝากและบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ และจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้รับจ้างเปิดบัญชีให้เป็นเงินสดคนละประมาณ 2,000 - 3,000 บาท โดยบุคคลเหล่านี้รู้ไม่เท่าทันกับภัยที่จะเกิดขึ้นกับตนเองในภายหลัง เมื่อกลุ่มมิจฉาชีพได้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัตรเอทีเอ็มเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด หรือใช้เป็นบัญชีรับเงินที่โอนมาจากการกระทำความผิด เช่น ใช้เป็นบัญชีเพื่อรับเงินโอนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงให้โอนเงินทางโทรศัพท์ไม่ว่าจะทำให้เหยื่อตกใจกลัวหรือดีใจก็ตาม เมื่อเหยื่อเกิดการหลงเชื่อไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ตามคำสั่งของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านั้น โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นการทำธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีของตน ไปเข้าบัญชีที่ถูกว่าจ้างให้เปิดรอไว้รับเงินของกลุ่มมิจฉาชีพนั่นเอง
สำหรับเหล่ามิจฉาชีพที่มักใช้บัญชีที่ว่าจ้างเปิดบัญชี เพื่อใช้กระทำการผิดกฎหมายหรือปกปิดร่องรอยการทำธุรกิจของตน ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพ่อค้ายาเสพติด เจ้าของบ่อนการพนัน ผู้ประกอบธุรกิจแชร์ลูกโซ่ บุคคลที่มีพฤติกรรมการกู้ยืมเงินที่เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน นายทุนเงินกู้นอกระบบ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น
วันนี้เรามาดูความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการจ้างวานให้เปิดบัญชี และการรับจ้างเปิดบัญชีว่ามีอย่างไรบ้าง การรับจ้างเปิดบัญชีเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น เพื่อนาไปใช้ในทางที่ไม่สุจริต อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ในฐานะเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดของบุคคลตั้งแต่สองขึ้นไป หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในกรณีที่ผู้อื่นกระทำความผิด นอกจากนี้ ยังอาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฟอกเงินได้ หากใช้บัญชีเงินฝากนั้นเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน
สำหรับตัวผู้ว่าจ้างให้เปิดบัญชีเอง อาจเข้าข่ายเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด โดยการใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือด้วยวิธีอื่นใด
บทสรุป : การรับจ้างเปิดบัญชีหรือการยินยอมให้บุคคลอื่นนำบัญชีเงินฝากและบัตรเอทีเอ็มของตนไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ โดยหวังแค่ผลตอบแทนหรือผลประโยชน์เล็กน้อย อาจทำให้ต้องตกเป็นตัวการร่วมผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดทางอาญา หรือกฎหมายการฟอกเงินได้ ซึ่งความผิดดังกล่าวมีบทลงโทษที่ค่อนข้างหนัก มีโอกาสที่จะไปใช้ชีวิตในเรือนจำตลอดชีวิตสูงมาก
ดังนั้น ประชาชนจึงอย่าหลงเชื่อ ควรหลีกเลี่ยงการรับจ้างเปิดบัญชี และควรที่จะช่วยกันแจ้งเบาะแสหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ทางการ ส่วนหนึ่งก็จะช่วยให้ประชาชนที่รู้ไม่เท่าทัน ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ และรอดพ้นจากการทาธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ถูกต้องในรูปแบบต่างๆ และช่วยยับยั้งมิให้เหล่ามิจฉาชีพก่ออาชญากรรมทางการเงินขึ้นมาได้ รวมทั้งช่วยป้องกันหรือลดความเสียหายที่จะเกิดแก่ประชาชน และระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศชาติโดยส่วนรวมได้เช่นกัน
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย