ฉบับที่ 14/2556
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือ ปรับลดลงจากเดือนก่อน ตามการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ รวมทั้งการผลิตสินค้าทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร อย่างไรก็ดี การส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวดี ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ สินเชื่อ และเงินฝาก ชะลอตัวลง ส่วนอัตราการว่างงานสูงขึ้นเล็กน้อย
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือ มีดังนี้
ภาคอุปสงค์ปรับตัวลดลง โดยการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดมีจำนวน 14,475.4 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 15.6 ยังคงเป็นผลจากฐานสูงในปีก่อน จากการตกเบิกเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งที่ปรับเพิ่มให้กับข้าราชการ ประกอบกับการลดลงของเงินอุดหนุนให้กับหน่วยงานราชการท้องถิ่นหลังจากได้รับการโอนมากในช่วงก่อนหน้า รวมทั้งการเบิกจ่ายในหมวดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลดลงตามความล่าช้าของโครงการ ขณะที่การเบิกจ่ายสะสมในช่วง 11 เดือน ของปีงบประมาณ 2556 ขยายตัวร้อยละ 2.9 ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 8.1 ตามการชะลอตัวของภาวะการก่อสร้างและการผลิต ที่สำคัญเป็นการหดตัวของมูลค่านำเข้าเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล และปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ร้อยละ 59.9 51.6 และ 4.4 ตามลาดับ ส่วนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในเดือนนี้ มีจานวน 9 โครงการ จำนวนเงิน 545.2 ล้านบาท เพื่อผลิตสินค้าเกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์โลหะ และอิเล็กทรอนิกส์ และการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 0.6 เนื่องจากรายได้เกษตรกรลดลง และไม่มีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากนโยบายของภาครัฐ ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคยังขยายตัว
การส่งออกมีมูลค่า 397.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 12.3 ตามการส่งออกผ่านด่านชายแดนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการส่งสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ไปยังประเทศเมียนมาร์เร่งตัวหลังจากปัญหาอุทกภัยคลี่คลาย ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 142.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 2.0 จากการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าทุน ประกอบกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พืชผลการเกษตรที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โค-กระบือ เฟอร์นิเจอร์และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้
ภาคอุปทานยังอยู่ในเกณฑ์ลดลง โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 11.3 ตามการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องดื่ม เลนส์กล้องถ่ายภาพ และส่วนประกอบฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เนื่องจากความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศลดลง สำหรับเครื่องดื่มผู้ผลิตรอความชัดเจนเพดานภาษีที่จะประกาศใหม่ รายได้เกษตรกรยังหดตัวแต่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน เป็นผลจากผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวลดลงจากร้อยละ 8.0 เดือนก่อน เหลือร้อยละ 0.6 เนื่องจากปริมาณผลผลิตพืชฤดูกาลใหม่ อาทิ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เริ่มออกสู่ตลาดและมีปริมาณมากกว่าปีก่อนเพราะสภาพภูมิอากาศเอื้ออานวยกว่าฤดูกาลผลิตก่อนหน้า ส่วนด้านราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 3.6 ตามราคาข้าวเปลือกและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตและอุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น สำหรับการท่องเที่ยวยังขยายตัวดี จากการเข้ามาทัศนศึกษาและท่องเที่ยวของกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากภาคอื่น ประกอบกับยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
เสถียรภาพในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 2.14 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ผักและผลไม้ อัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคม 2556 ปรับสูงขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละ 0.8 ด้านจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเดือนสิงหาคม 2556 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน
ภาคการเงินชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 มีจำนวน 562,300 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนลดลง 7,138 ล้านบาท เนื่องจากหน่วยงานราชการบางแห่งถอนเงินเพื่อนำไปจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นปีงบประมาณ และส่วนหนึ่งจากความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจของผู้ประกอบการ ทางด้านเงินให้สินเชื่อมียอดคงค้าง 536,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 แม้ชะลอตัวลงแต่ยังขยายตัวดี ตามความต้องการสินเชื่อในหลายประเภท อาทิ เช่าซื้อรถยนต์ เพื่อที่อยู่อาศัยค้าปลีกค้าส่ง รับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตร
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทวีศักดิ์ ใจคำสืบ
โทร. 0 5393 1162
e-mail : Thaveesc@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย