ฉบับที่ 17/2556
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนตุลาคม 2556 ปรับลดลงจากเดือนก่อนเป็นผลจากด้านอุปสงค์เป็นสำคัญ โดยการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวมากขึ้น ส่วนการท่องเที่ยว การส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรยังขยายตัว ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อชะลอลง อัตราการว่างงานทรงตัว เงินฝากและสินเชื่อขยายตัวในอัตราชะลอลง
ภาคอุปสงค์หดตัวมากขึ้น โดยการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดในเดือนตุลาคม 2556 มีจำนวน 15,268.4 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 33.1 เป็นผลจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ล่าช้าเป็นสำคัญ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลงร้อยละ 12.7 ตามมูลค่านำเข้าเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ลดลงร้อยละ 56.5 ปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 14.4 ยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลงร้อยละ 10.4 โดยยังเป็นผลจากการเทียบกับฐานสูงในระยะเดียวกันปีก่อน และภาวะการก่อสร้างชะลอตัวต่อเนื่อง สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในเดือนนี้มี 4 โครงการ มูลค่า 1,503.5 ล้านบาท เพื่อผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลงเพิ่มขึ้นจากลดลงร้อยละ 0.6 เดือนก่อน เป็นลดลงร้อยละ 2.7 ตามการระมัดระวังการใช้จ่าย เนื่องจากรายได้เกษตรกรลดลง ประกอบกับความต้องการใช้จ่ายของผู้บริโภคบางส่วนลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ การชุมนุมทางการเมือง และภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
การส่งออกมีมูลค่า 400.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ตามการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านด่านชายแดน ประกอบกับการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ผ่านด่านศุลกากร ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 134.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 2.4 ตามการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง เช่น แผ่นแก้วสำหรับทำเลนส์ แผงวงจรสำเร็จรูป และเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน
ภาคอุปทานยังขยายตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขยายตัวดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางในช่วงปิดภาคเรียน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 14.1 ตามการผลิตเครื่องดื่มหลังจากที่ชะลอการผลิตลงในช่วงก่อนหน้าและเพื่อชดเชยสินค้าคงคลัง รวมทั้งการผลิตชิ้นส่วนในอุปกรณ์สื่อสารและยานยนต์เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศมาผลิตในภาคเหนือ ด้านดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จากผลผลิตข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวยและเกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก ทางด้านราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 6.9 เนื่องจากราคาข้าวเปลือกเจ้านาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อ่อนตัวต่อเนื่องตามราคาตลาดโลก เพราะผลผลิตในตลาดยังมีมากในขณะเดียวกันผลผลิตใหม่กำลังออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลงร้อยละ 5.5
เสถียรภาพในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงเหลือร้อยละ 2.08 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลดลง อัตราการว่างงานทรงตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ด้านจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมยังเพิ่มขึ้น
ภาคการเงินขยายตัวในอัตราชะลอลงต่อเนื่อง โดยเงินฝาก ของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนกันยายน2556 มีจานวน 561,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 ซึ่งชะลอลงจากร้อยละ 8.8 เดือนก่อน เนื่องจากมีการแข่งขันระดมเงินทุนทั้งสถาบันการเงินเฉพาะกิจและภาคเอกชน ทางด้านเงินให้สินเชื่อ มียอดคงค้าง 550,985 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 21.3 จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลประเภทเพื่อที่อยู่อาศัยและเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อภาคธุรกิจประเภทการก่อสร้าง การเกษตร และธุรกิจการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทวีศักดิ์ ใจคำสืบ
โทร. 0 5393 1162
e-mail : Thaveesc@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย