แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2556

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 4, 2014 13:03 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 03/2557

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2556 ขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปี 2555 โดยการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงจากผลของโครงการรถยนต์คันแรกของภาครัฐสิ้นสุดลง สอดคล้องกับการค้าปลีกรถยนต์และยอดจดทะเบียนรถยนต์ที่ชะลอลง ส่วนสำคัญเป็นผลจากรายได้เกษตรกรชะลอลงจากราคาพืชผลสำคัญที่หดตัว รวมถึงสถาบันการเงินชะลอการให้สินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนจากภาระหนี้ที่เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นส่วนด้านการใช้จ่ายของภาครัฐลดลงทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอลง โดยเฉพาะภาคการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้

การบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.0 แต่เริ่มชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีตามผลกระทบสืบเนื่องของโครงการรถยนต์คันแรกของภาครัฐที่สิ้นสุดลงเมื่อปลายเดือนธันวาคม ปี 2555 สะท้อนจากการค้าปลีกรถยนต์และยอดจดทะเบียนรถยนต์ที่ขยายตัวในอัตราชะลอลง ส่วนสำคัญเป็นผลจากกำลังซื้อจากรายได้เกษตรกรชะลอลงจากผลของราคาพืชผลสำคัญที่หดตัว รวมถึงสถาบันการเงิน ชะลอการให้สินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนตามภาระหนี้ที่เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้ภาคการค้าชะลอลง โดยดัชนีการค้าแม้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.2 แต่ขยายตัวน้อยกว่าปีก่อนตามการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งการค้าปลีกอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องใช้ภายในบ้านที่เริ่มชะลอลงชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงทำให้ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

นอกจากนี้ แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายของภาครัฐลดลงจากปีก่อนร้อยละ 6.7 โดยเป็นการลดลงทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน เนื่องจากมีข้อจำกัดในการจัดสรรงบประมาณ สำหรับรายจ่ายประจำลดลงจากปีก่อนร้อยละ 7.8 ส่วนรายจ่ายลงทุนลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.8 ตามการลดลงจากรายจ่ายในหมวดค่าจ้าง เงินเดือน และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเป็นสำคัญ ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอลง โดยดัชนีการ ลงทุนภาคเอกชนแม้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.5 แต่ชะลอลงจากปี 2555 ตามภาคการก่อสร้างเป็นสำคัญสะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างที่ลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีตามการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ ส่วนการก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอาคารชุดชะลอลงจากที่ขยายตัวไปค่อนข้างมากในระยะก่อนหน้าสอดคล้องกับทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ที่ลดลง โดยเฉพาะในหมวดอสังหาริมทรัพย์และหมวดการก่อสร้างสำหรับแนวโน้มการลงทุนในระยะต่อไปเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวเช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ประกอบกับนโยบายการส่งเสริมในหมวดบริการและสาธารณูปโภค (พลังงานไฟฟ้าทางเลือก) ของกระทรวงพลังงานได้สิ้นสุดลง ส่งผลให้การได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนของ BOI ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกเป็นสำคัญ

ด้านการผลิตในภาคเกษตรกรรม ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 0.8 แต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับปี 2555 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 จากผลของราคาที่ลดลง ขณะที่ผลผลิตยังคงเพิ่มขึ้น โดยดัชนีราคาพืชสำคัญลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.3 และยังคงหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากราคายางพาราและอ้อยโรงงานลดลงตามทิศทางราคาในตลาดโลกจากปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคามันสำปะหลังสูงขึ้นเนื่องจากความ ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียวขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากผลของโครงการรับจำนำที่ช่วยพยุงให้ราคาสูงขึ้น ประกอบกับผลผลิตในตลาดที่มีจำกัดจากปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูการผลิตก่อนหน้า สำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.1 จากผลผลิตในทุกพืชหลัก ยกเว้นผลผลิตข้าวนาปรังที่ลดลงมาก ตามการงดปลูกข้าวนาปรังในบางพื้นที่ เนื่องจากปัญหาภัยแล้งส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกในช่วงต้นปี สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.4 ตามการลดลงของการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นผลจากฐานในภาคการเงิน ธนาคารพาณิชย์ มีเงินฝากคงค้าง 614.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.3 แต่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากผู้ฝากเงินบางส่วนหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ด้านสินเชื่อคงค้าง 777.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19.5 แต่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากสถาบันการเงินระมัดระวังในการให้สินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ชะลอลงค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดี สินเชื่อที่ให้แก่ภาคธุรกิจยังขยายตัวดี โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการค้าปลีกค้าส่ง และสินเชื่ออุตสาหกรรม สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีเงินฝากคงค้าง 347.5 พันล้านบาท และสินเชื่อคงค้าง950.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.2 และร้อยละ 7.4 ตามลำดับ ทั้งเงินฝากและสินเชื่อขยายตัว ในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน จากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ปกติแม้ว่าเสถียรภาพด้านราคาจะเริ่มปรับสูงขึ้นบ้างโดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ร้อยละ 2.75 สูงขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 2.48 ตามการสูงขึ้นของราคาในหมวดอาหาร โดยเฉพาะผักสด เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ ปลา สัตว์น้ำ ไข่ ข้าว และราคาในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาสูบ ผลิตภัณฑ์เบียร์และผลิตภัณฑ์สุรา สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ ร้อยละ 1.32 ชะลอตัวจากปีก่อนตามราคาอาหารสำเร็จรูปบริโภคในและนอกบ้าน สำหรับอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7

ธนาคารแห่งประเทศไทย

สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410

E-mail: Rotelakp@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ