แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนสิงหาคม 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 2, 2014 09:50 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 9/2557

ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนสิงหาคม 2557 โดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อน แม้การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกขยายตัวดีตามการฟื้นตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศ และสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวคลายความกังวล และการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคซึ่งปรับดีขึ้นต่อเนื่อง แต่การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวช้า เนื่องจากผู้ประกอบการรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาล ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐทำได้จำกัด สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านธนาคารพาณิชย์ เงินฝากปรับเพิ่มขึ้น แต่สินเชื่อยังชะลอตัว

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือมี ดังนี้

ภาคอุปสงค์ทรงตัวจากเดือนก่อน โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.5 ตามการหดตัวของการใช้จ่ายในสินค้าคงทนโดยเฉพาะหมวดยานยนต์ เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้อยู่ในระดับสูง แต่มีสัญญาณฟื้นตัวจากเดือนก่อนตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และรายได้นอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นจากการทำงานล่วงเวลาส่งผลให้สินค้าจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคขยายตัวได้ต่อเนื่อง

ด้านดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.6 และ 5.9 ตามลาดับ เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาล เป็นผลให้เครื่องชี้สาคัญลดลงทั้งยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล และปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างตามการก่อสร้างของโครงการภาครัฐ และภาคเอกชนจากการชะลอลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัด มีจานวน 13,976.5 ล้านบาท หดตัวจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.6 และ 3.4 ตามลาดับ เนื่องจากการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนทำได้จำกัดโดยเฉพาะโครงการก่อสร้าง

การส่งออกมีมูลค่า 464.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 16.8 ตามการส่งออกสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิ้นส่วนเลนส์กล้องถ่ายภาพ แผงวงจรสำเร็จรูป และไอซี ไปยังตลาดในกลุ่มอาเซียน สหรัฐอเมริกา และยุโรป รวมทั้งการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านด่านชายแดนขยายตัวดีทั้งเมียนมาร์ ลาว และจีนตอนใต้ ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 166.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวร้อยละ 16.9 ตามการนำเข้าวัตถุดิบ และสินค้าขั้นกลางเพื่อผลิตสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกโดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ

ภาคอุปทานปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน ตามผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 จากผลผลิตลำไย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ส่วนราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 8.3 ตามราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ลดลงตามราคาตลาดโลก และราคาลำไยลดลงจากผลผลิตในตลาดมีจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ราคาสับปะรด และปศุสัตว์อยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้รายได้เกษตรกรปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน

การท่องเที่ยวปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนเช่นกัน จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐและเอกชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มคลายความกังวลสถานการณ์ทางการเมือง ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งความสะดวกจากเที่ยวบินตรง ทำให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาในพื้นที่มากขึ้นโดยเฉพาะเชียงใหม่ ส่งผลให้อัตราการเข้าพัก และจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานปรับสูงขึ้น

ขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ชะลอลงจากร้อยละ 14.3 เดือนก่อน โดยการผลิตเพื่อการส่งออกยังขยายตัวดีจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ชิ้นส่วนประกอบเลนส์ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น เซรามิกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารมีความต้องการจากตลาดยุโรป ขณะที่การผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศหดตัวตามการผลิตเครื่องดื่มเป็นสำคัญ

เสถียรภาพเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยเป็นร้อยละ 2.18 ตามราคาไก่สด และไข่ไก่ จากสภาพอากาศแปรปรวน และจำนวนแม่ไก่ลดลง ทำให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง อย่างไรก็ดี ราคาสุกร ผัก ผลไม้ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับลดลง ด้านอัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนก่อนอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ขณะที่จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมชะลอลงจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน

ภาคการเงินขยายตัวชะลอลง โดยเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2557 มียอดคงค้าง 587,001 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.4 แต่ยอดคงค้างลดลงจากเดือนก่อน จากลูกค้าบางส่วนหันไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ทยอยออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่จูงใจ เพื่อรักษาฐานลูกค้า ด้านเงินให้สินเชื่อ มียอดคงค้าง 569,918 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.2 ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 จากระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงทำให้ระมัดระวังการใช้จ่าย ประกอบกับการชะลอการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการระมัดระวังการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์

ธนาคารแห่งประเทศไทย สานักงานภาคเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : กุศล จันทร์แสงศรี

โทร. 0 5393 1164 e-mail : Kusolc@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ