ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 11 มีนาคม 2558

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 11, 2015 10:13 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 14/2558

นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 11 มีนาคม 2558

คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 3 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 3 เสียงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี

ประเด็นที่คณะกรรมการฯ ให้ความสาคัญในการตัดสินนโยบาย มีดังนี้

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 และเดือนมกราคม 2558 ยังคงฟื้นตัวค่อนข้างช้า โดยมีแรงส่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนน้อยกว่าคาด ส่วนหนึ่งเนื่องจาก ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลง เศรษฐกิจในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในอัตราต่ากว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน สาหรับการส่งออกสินค้าคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่คาด แต่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าโดยเฉพาะจีน ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องซึ่งจะช่วยชดเชยอุปสงค์ในประเทศได้บางส่วน

ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงและติดลบตามราคาน้ามันโลกที่อยู่ในระดับต่า อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าและบริการส่วนใหญ่ยังปรับเพิ่มขึ้น สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่เป็นบวก มองไปข้างหน้า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่าใกล้เคียงกับที่คณะกรรมการฯ ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน สาหรับเสถียรภาพระบบการเงินยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องติดตามผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจสะสมจากพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า (Search for yield) ภายใต้ภาวะ อัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ามาเป็นเวลานาน

ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงกว่าที่ประเมินไว้ โดยแรงกระตุ้นจากภาคการคลังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลชัดเจน และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะอยู่ในระดับต่าไปอีกระยะหนึ่ง ภายใต้ภาวะดังกล่าว กรรมการ 4 คนเห็นว่านโยบายการเงินควร ผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจ และช่วยพยุงความเชื่อมั่นของภาคเอกชน อย่างไรก็ดี กรรมการ 3 คนประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ผ่อนปรนเพียงพอในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และควรรักษาขีดความสามารถในการดาเนินนโยบายการเงินไว้สาหรับเวลาที่จาเป็นและมีประสิทธิผลมากกว่าปัจจุบัน ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันควรอาศัยแรงขับเคลื่อนด้านการคลังมากขึ้น โดยเฉพาะการดาเนินการตามแผนการลงทุนของภาครัฐ

ในระยะต่อไป คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดาเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1 โทร: 0-2283-6186, 0-2356-7872

e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam1@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ