ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2558

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2015 13:37 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 38/2558

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้อานวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2558 ว่าระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ สินเชื่อทรงตัวหลังจากชะลอต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2555 คุณภาพสินเชื่อด้อยลงจากสินเชื่อธุรกิจ SME อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์มีการดูแลและติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งเงินสำรองและเงินกองทุน อยู่ในระดับสูง ขณะที่กำไรสุทธิลดลงจากการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้นและรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ ชะลอตัวลง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับความต้องการสินเชื่อที่ชะลอลงตามการใช้จ่ายและการลงทุนของภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้สินเชื่อชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2555 แต่ก็เริ่มทรงตัว โดยในไตรมาส 2 ปี 2558 ยังขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 2558 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน และเมื่อรวมกับยอดตราสารหนี้ที่ภาคเอกชนไปออกในตลาดทุน สินเชื่อขยายตัวสูงขึ้นที่ร้อยละ 6.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน

สินเชื่อธุรกิจ (ร้อยละ 68.7 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 3.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยขยายตัวสูงขึ้นในภาคธุรกิจการเงิน อสังหาริมทรัพย์ (โดยเฉพาะอาคารสานักงาน) อุตสาหกรรมการผลิต และสาธารณูปโภค สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวร้อยละ 0.7 ชะลอลงจากร้อยละ 2.6 ในไตรมาสก่อน จากการชำระคืนหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจการพาณิชย์ ซึ่งหันไประดมทุนโดยการออกหุ้นกู้แทน สินเชื่อ SME ขยายตัวร้อยละ 5.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.4 ในไตรมาสก่อนจากธุรกิจขนาดกลาง เป็นสำคัญ สินเชื่ออุปโภคบริโภค (ร้อยละ 31.3 ของสินเชื่อรวม) ทรงตัวที่ร้อยละ 7.8 โดยขยายตัวได้ดีในสินเชื่อ ส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.1 และสินเชื่อรถยนต์ยังคงหดตัวที่ร้อยละ 3.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน

ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) มียอดคงค้าง 311.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 13.3 พันล้านบาท จากธุรกิจในภาคพาณิชย์และอุตสาหกรรม และ SME ขนาดเล็ก เป็นสำคัญ ส่งผลให้สัดส่วน Gross NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.38 จากร้อยละ 2.29 ในไตรมาสก่อน สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan : SM) มียอดคงค้างทั้งสิ้น 355.6 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 10.6 พันล้านบาท ทาให้สัดส่วน SM ต่อสินเชื่อรวมลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.72 จากร้อยละ 2.81 ณ สิ้นไตรมาสก่อน ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสัดส่วน เงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 165.1

ระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2558 มีกำไรสุทธิ 53.3 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นมากเพื่อรองรับผลกระทบจากคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลง นอกจากนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ชะลอตัวตามการชะลอตัวของสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงส่งผลให้อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5

ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,089.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสะสม การเพิ่มทุนและการออกตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (Tier-2) ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier-1 ratio) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 16.8 และร้อยละ 14.0 ตามลำดับ

ธนาคารแห่งประเทศไทย 11 สิงหาคม 2558

ข้อมูลเพิ่มเติม: ทีมวิเคราะห์ฐานะและสินเชื่อ

โทร. 0 2283 5980

e-mail: FP&LATeam@bot.or.th

ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ