ฉบับที่ 52/2558
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2558
คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี
ประเด็นที่คณะกรรมการฯ ให้ความสำคัญในการตัดสินนโยบาย มีดังนี้
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2558 ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ใกล้เคียงกับที่เคยประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน โดยอุปสงค์ในประเทศปรับดีขึ้นเล็กน้อย ตามการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนและการลงทุนของบางสาขาธุรกิจ ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น และคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจได้ส่วนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันปัจจัยลบจากต่างประเทศมีมากขึ้น โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเอเชีย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการฟื้นตัวของภาคการส่งออกไทยและความเชื่อมั่นของ นักลงทุน
แรงกดดันเงินเฟ้อทรงตัวจากการประชุมครั้งก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องตามราคาน้ามันในตลาดโลกที่ปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มที่จะทยอยปรับสูงขึ้นและคาดว่าจะกลับมาเป็นบวกในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า ขณะที่ความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดมีจากัด เนื่องจากอุปสงค์ยังขยายตัว และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก สอดคล้องกับการคาดการณ์เงินเฟ้อ ในระยะปานกลางของสาธารณชน
คณะกรรมการฯ ประเมินว่า ภาวะการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง และภาวะตลาดการเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้
ในระยะต่อไป คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง และจะติดตามผลของมาตรการทางการคลังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาวะการเงินในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย 4 พฤศจิกายน 2558
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1 โทร: 0-2283-6196, 0-2356-7872
e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam1@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย