แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม ปี 2559

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 29, 2016 17:39 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 8/2559

เรื่อง แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม ปี 2559

ในเดือนมกราคม 2559 แรงส่งของเศรษฐกิจไทยมีทิศทางแผ่วลง สาเหตุหลักมาจากปัจจัยชั่วคราวที่เริ่มหมดไป ทั้งการเร่งซื้อรถยนต์และมาตรการเร่งการใช้จ่ายของครัวเรือนในช่วงปลายปี ทำให้การบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวบ้าง ประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐชะลอลงหลังเร่งเบิกจ่ายในเดือนก่อน ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวสูงตามเศรษฐกิจจีนและอาเซียนที่ชะลอตัว และราคาสินค้าส่งออกที่ลดลงตามราคาน้ำมัน ส่งผลให้การผลิตและการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่สนับสนุนให้ภาคบริการขยายตัวดี

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงติดลบจากผลของราคาน้ำมันที่ลดลง อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงตามมูลค่าการนำเข้าที่หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับมาเกินดุลจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการกลับเข้ามาลงทุนในพันธบัตรไทยของ นักลงทุนต่างชาติ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้ ภาคการท่องเที่ยวปรับดีขึ้นต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ช่วยสนับสนุนให้ภาคบริการ ที่เกี่ยวข้องขยายตัวดี อาทิ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจขนส่ง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน จากนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงขยายตัวดีและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวยุโรป

การใช้จ่ายของภาครัฐทำได้ดีต่อเนื่องแม้แผ่วลงบ้าง จากแรงกระตุ้นการเบิกจ่ายนอกงบประมาณ ในการลงทุนโครงการด้านคมนาคมและชลประทานที่ชะลอลงหลังจากเร่งตัวสูงในช่วงก่อน และรายจ่ายลงทุน ที่ไม่รวมเงินอุดหนุนซึ่งขยายตัวในอัตราชะลอลง ขณะที่การจัดเก็บรายได้หดตัวเล็กน้อยจากการเลื่อนนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจบางแห่งและการปรับลดลงของรายได้ภาษีที่เกี่ยวกับการนำเข้าสอดคล้องกับการนำเข้าที่หดตัว

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนชะลอลงบ้าง หลังผลบวกจากปัจจัยชั่วคราวเริ่มหมดไป ทั้งการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีก่อนตามมาตรการลดหย่อนภาษีของภาครัฐ ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติในเดือนนี้ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนชะลอลงบ้าง นอกจากนี้ ปัจจัยหนุนการบริโภคในเดือนนี้แผ่วลงจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับลดลงเล็กน้อยจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะภัยแล้งและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี รายได้นอกภาคเกษตรที่ยังทรงตัว เป็นปัจจัยสนับสนุนให้การซื้อสินค้าไม่คงทนและหมวดบริการยังขยายตัวได้บ้าง

ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวในอัตราที่สูงขึ้นที่ร้อยละ 9.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน จาก 1) เศรษฐกิจจีนและอาเซียนที่ชะลอตัว 2) ผลดีจากปัจจัยชั่วคราวที่ทยอยหมดลง อาทิ การส่งออกรถยนต์รุ่นใหม่ และการส่งออกในหมวดทัศนูปกรณ์ (Optical appliances and instruments) ที่ชะลอลงต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ชะลอตัว และ 3) การหดตัวต่อเนื่องของราคาสินค้าส่งออกในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม อย่างไรก็ตาม การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปตลาดยุโรปยังมีแนวโน้มดีขึ้นตามการคาดการณ์สภาพอากาศว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นในปีนี้ และตลาดเวียดนามที่เศรษฐกิจขยายตัวดี

มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวร้อยละ 17.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวในเกือบ ทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะการนำเข้าในหมวดเชื้อเพลิงที่หดตัวในอัตราที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่ยังลดลงต่อเนื่อง ขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางไม่รวมเชื้อเพลิงหดตัวตามภาวะการส่งออกที่ซบเซา

การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวในหลายหมวดสินค้าตามการส่งออกสินค้าที่ซบเซา ประกอบกับ ผลจากปัจจัยชั่วคราวที่หมดลง อาทิ การผลิตรถยนต์ที่หดตัวสูงหลังจากเร่งไปมากเพื่อส่งมอบในปลายปีก่อน อย่างไรก็ตาม การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มดีขึ้นตามอุปสงค์ต่างประเทศ ด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนมีทิศทางทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับกำลังการผลิตที่มีเพียงพอ อีกทั้งผลบวกจากการเร่งซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์เริ่มหมดลง และการลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทนและกลุ่มโทรคมนาคมที่ชะลอลงบ้างหลังขยายตัวสูงในช่วงปลายปีก่อน ทั้งนี้ การระดมทุนโดยรวมของภาคธุรกิจทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบที่ร้อยละ -0.53 ตามการลดลงของราคาในหมวดพลังงาน สำหรับอัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนจากการจ้างงานในภาคบริการที่ปรับดีขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ลดลง และรายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับมาเกินดุลในเดือนนี้ จาก (1) การเข้ามาลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ (2) การได้รับชำระคืนสินเชื่อทางการค้าของผู้ส่งออกไทย และ (3) การกลับเข้ามาลงทุนในพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ การส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มากขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ทีมเศรษฐกิจมหภาค

โทร. 0 2283 5647, 0 2283 5648

e-mail: MPGMacroEconomics@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ