แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนเมษายน ปี 2559

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 31, 2016 17:52 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 28/2559

เรื่อง แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนเมษายน ปี 2559

เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2559 ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแรงส่งที่ดีจาก ภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตยังขยายตัวค่อนข้างต่ำ เพราะการส่งออกสินค้ายังคงซบเซาตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ ประกอบกับกำลังซื้อภายในประเทศได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ส่งผลต่อเนื่องให้การลงทุนภาคเอกชนยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องอย่างชัดเจน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐแผ่วลงเล็กน้อยหลังจากที่เร่งไปมากในเดือนก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยตามการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสดและราคาน้ำมัน อัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากมูลค่าการน่าเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับรายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่ดี

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้

ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวร้อยละ 9.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยส่วนหนึ่งได้รับประโยชน์จากการขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศของสายการบินต้นทุนต่ำ ทั้งนี้ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวส่งผลให้ภาคบริการที่เกี่ยวข้องขยายตัวดี ทั้งธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและธุรกิจขนส่ง

การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยอุตสาหกรรมสำคัญ ที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ จากความต้องการรถกระบะดัดแปลงรุ่นใหม่ ประกอบกับฐานการผลิตที่ต่ำในปีก่อนเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนสายการผลิตสินค้า นอกจากนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวดีโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศตามสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติ และการผลิตปิโตรเลียมกลับมาขยายตัวหลังจากที่มีการปิดปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันในเดือนก่อน โดยราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำมีส่วนสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันโดยเฉพาะในประเทศ อย่างไรก็ตาม การผลิตเพื่อส่งออกโดยรวมยังไม่ดี สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน และประเทศในภูมิภาค ประกอบกับบางอุตสาหกรรมเผชิญข้อจำกัดเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยในประเทศและจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลก

มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนนี้กลับมาหดตัวค่อนข้างมากที่ร้อยละ 7.6 จากระยะเดียวกันปีก่อนโดยเป็นการหดตัวในหลายหมวดสินค้าตามเศรษฐกิจคู่ค้าที่ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะจีนและอาเซียน ประกอบกับปัจจัยบวกชั่วคราวหมดไป ทั้งการส่งออกทองค่าและการส่งออกเครื่องจักรเพื่อขุดเจาะน้ำมันไปยังบราซิลในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไปญี่ปุ่นหดตัวเพราะโรงงานผลิตรถยนต์บางแห่งในญี่ปุ่นหยุดการผลิตชั่วคราวภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว อย่างไรก็ดี การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปกลุ่มประเทศอาเซียนขยายตัวดี โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติ รวมทั้งความต้องการสินค้า ในตลาดเวียดนามเติบโตตามภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวดี

ด้านอุปสงค์ในประเทศ เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการ ใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนมีทิศทางขยายตัวได้ แต่ครัวเรือนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย ส่วนหนึ่งจากกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง ประกอบกับรายได้เกษตรกรที่แม้ปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อนตามราคายางพาราแต่โดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำจากผลกระทบของภาวะภัยแล้ง ส่งผลให้การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนยังคงลดลงจากเดือนก่อน และอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐยังมีต่อเนื่องแม้แผ่วลงบ้าง โดยรายจ่ายลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณชะลอลงหลังมีการเร่งเบิกจ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า อาทิ โครงการด้านคมนาคมและชลประทาน อย่างไรก็ดี รายจ่ายประจ่าที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวตามการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ

มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวร้อยละ 13.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวในทุกหมวดสินค้า ทั้งนี้ การน่าเข้าในหมวดสินค้าขั้นกลางและวัตถุดิบหดตัวตามภาวะการส่งออกสินค้าที่ซบเซาและอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ขณะที่การนำเข้าหมวดสินค้าทุนหดตัว สะท้อนภาวะการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตภาค อุตสาหกรรมยังมีเพียงพอ สอดคล้องกับการระดมทุนโดยรวมของภาคธุรกิจที่ยังต่ำแม้จะปรับดีขึ้นบ้างในเดือนนี้

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.07 จากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสดและราคาน้ำมัน สำหรับอัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนก่อน โดยมีสัญญาณการจ้างงานต่ำระดับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะในภาคเกษตร ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ดีต่อเนื่อง และมูลค่าการน่าเข้าที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิ 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จาก 1) การขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างประเทศ 2) การชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นที่ครบก่าหนดโดยเฉพาะของสถาบันรับฝากเงิน และ 3) การลงทุนโดยตรงของธุรกิจไทยในต่างประเทศ

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ทีมเศรษฐกิจมหภาค

โทร. 0 2283 5647, 0 2283 5648

e-mail: MPGMacroEconomics@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


แท็ก การส่งออก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ