แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมิถุนายนและไตรมาสที่ 2 ปี 2559

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 29, 2016 15:27 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 42/2559

เรื่อง แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมิถุนายนและไตรมาสที่ 2 ปี 2559

เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2559 ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายภาครัฐยังทำได้ดีต่อเนื่อง และภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวดีแม้ในเดือนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังปรับฤดูกาลแล้วจะลดลงบ้าง แต่เป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว ด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับลดลงเล็กน้อยตามยอดขาย ยานยนต์ที่เร่งไปมากในเดือนก่อนที่มีการส่งเสริมการขายและการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ สะท้อนกำลังซื้อของครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตรที่ยังไม่เข้มแข็งนัก ขณะที่การส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำยังซบเซาต่อเนื่องตามเศรษฐกิจคู่ค้าที่ฟื้นตัวช้าและปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้การผลิตและการลงทุนภาคเอกชนยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงเล็กน้อยตามราคาอาหารสดที่ปรับลดลงเนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย อัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากมูลค่าการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่หากปรับฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนจากผลของปัจจัยชั่วคราว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย และตะวันออกกลางเนื่องจากตรงกับช่วงเทศกาลถือศีลอด อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวจีนปรับดีขึ้นหลังจากหดตัวต่อเนื่องในช่วงสองเดือนก่อน โดยภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดีมีส่วนช่วยให้ภาคบริการที่เกี่ยวข้องขยายตัวได้

การบริโภคภาคเอกชนปรับลดลงเล็กน้อยตามการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนที่หดตัว อาทิ รถยนต์ ที่ยอดขายเร่งขึ้นในเดือนก่อนที่มีการส่งเสริมการขายและการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ขณะที่การใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคมีทิศทางทรงตัว สอดคล้องกับกำลังซื้อของครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตรที่ยังไม่เข้มแข็งนัก แม้รายได้เกษตรกรโดยรวมทยอยปรับดีขึ้น แต่ปริมาณผลผลิตของพืชบางชนิดโดยเฉพาะไม้ยืนต้นยังคงได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากภัยแล้งในช่วงก่อนหน้า ขณะที่รายได้นอกภาคเกษตรขยายตัวได้อย่างช้า ๆ ซึ่งช่วยประคับประคองการบริโภคได้บางส่วน

มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนนี้กลับมาขยายตัวร้อยละ 1.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาในตลาดโลกหลังผลประชามติระบุว่าสหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี หากไม่นับรวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกหดตัว ร้อยละ 1.6 โดยเป็นการหดตัวในอัตราที่ชะลอลงเนื่องจากผลของฐานต่ำในระยะเดียวกันปีก่อนในหมวด ยานยนต์และผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ การส่งออกในหลายหมวดสินค้ายังคงหดตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวช้าปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง และราคาส่งออกในหมวดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียมที่ยัง หดตัว อย่างไรก็ดี การส่งออกบางหมวดขยายตัวได้ต่อเนื่อง อาทิ เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ แผงวงจรรวมและชิ้นส่วนกลับมาขยายตัวได้เนื่องจากประเทศคู่ค้าเร่งนำเข้าเพื่อเตรียมผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน สอดคล้องกับทิศทางการส่งออกของกลุ่มประเทศในเอเชียเหนือ มูลค่า การส่งออกที่ไม่รวมทองคำและการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงในเดือนนี้ ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงเช่นกัน มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวร้อยละ 9.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน แต่หากไม่รวมทองคำ มูลค่า การนำเข้าหดตัวในอัตราที่สูงขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละ 9.7 ตามการหดตัวในเกือบทุกหมวดสินค้า โดยการนำเข้าหมวดสินค้าขั้นกลางและวัตถุดิบยังคงหดตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังต่ำกว่าระยะเดียวกันปีก่อน และปริมาณการนำเข้าเชื้อเพลิงที่หดตัวเนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ขณะที่การนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ยังคงหดตัว สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่ทรงตัวในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐยังทำได้ดีและเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยรายจ่ายประจำขยายตัวสูงตามการใช้จ่ายในโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐที่เริ่มเบิกจ่ายในเดือนนี้ และการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ขณะที่รายจ่ายลงทุนกลับมาขยายตัวดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่แผ่วลงไปในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะการลงทุนด้านคมนาคมและชลประทาน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงเล็กน้อยตามราคาอาหารสดที่ปรับลดลงเนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย อัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนก่อน ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากมูลค่าการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิตามการออกไปลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของภาคธุรกิจไทย อย่างไรก็ดี มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์ไทยทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในภูมิภาค

เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป การใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่องแม้จะชะลอลงบ้างจากไตรมาสก่อน ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามกำลังซื้อของครัวเรือนภาคเกษตรที่รายได้เริ่มกลับมาขยายตัวได้หลังจากปัญหาภัยแล้งคลี่คลายลงและความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำยังคงหดตัวเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวช้า ปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งราคาสินค้าส่งออกที่ยังหดตัวแม้ทิศทางปรับเพิ่มขึ้นบ้างตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้ภาคการผลิตและการลงทุนภาคเอกชนทรงตัว ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาเป็นบวกตามราคาอาหารสดที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของภัยแล้ง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการจ้างงานภาคเกษตรที่ลดลง ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง และมูลค่าการนำเข้าที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ทีมเศรษฐกิจมหภาค

โทร. 0 2283 5647, 0 2283 5648

e-mail: MPGMacroEconomics@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ