แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือไตรมาส 2 ปี 2559

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 2, 2016 15:30 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 10/2559

เรื่อง แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินไตรมาส 2 ปี 2559

เศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญยังมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกชายแดนไปเมียนมาและภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างทรงตัว แม้การใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าคงทนปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการส่งเสริมการขายและออกรถยนต์รุ่นใหม่ แต่การบริโภคสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันยังลดลงต่อเนื่อง จากกำลังซื้อของประชาชนในภาคเกษตรที่ยังอ่อนแอปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจยังมาจากภาคการผลิตทั้งภาคเกษตรที่ได้รับผลกระทบมากจากภัยแล้ง และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกซึ่งหดตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซา แม้จะเริ่มเห็นการลงทุนเพิ่มบ้างในบางอุตสาหกรรมแต่ยังไม่เห็นแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้นชัดเจน

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภาคเหนือโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้นบ้างจากราคาอาหารสดเป็นสำคัญ อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำโดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภาคบริการและการก่อสร้าง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในบางอุตสาหกรรมเริ่มนำเครื่องจักรมาใช้และค่อย ๆ ทยอยปรับลดแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเลิกจ้างอย่างมีนัยสำคัญ ด้านเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินให้สินเชื่อชะลอลงต่อเนื่อง

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือมีดังนี้

บทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนเศรษฐกิจยังมีต่อเนื่อง สะท้อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 จากการเร่งเบิกจ่ายโครงการลงทุนตามแผนงานในงบประมาณปกติจากการก่อสร้างและซ่อมแซมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของกรมชลประทาน การก่อสร้างอาคารของสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาล รวมถึงเงินอุดหนุนให้กับท้องถิ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าจะกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ภาคการท่องเที่ยว โดยรวมยังขยายตัวดี ส่วนสำคัญมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนที่ยังนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญในภาคเหนือตอนบน แม้อัตราขยายตัวจะชะลอลงบ้างจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และความกังวลด้านปัญหาหมอกควันในช่วงต้นไตรมาส 2 นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวไทยยังเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมและประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง สะท้อนจากทุกเครื่องชี้สำคัญเพิ่มขึ้น ได้แก่ จำนวนเที่ยวบินตรง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้โดยสารผ่านด่านท่าอากาศยานภาคเหนือ ปริมาณการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทโรงแรมและภัตตาคาร อัตราเข้าพักของโรงแรมและราคาห้องพักเฉลี่ย

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 โดยการใช้จ่ายสินค้าหมวดยานยนต์กลับมาเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมทั้ง สภาพอากาศร้อนจัดและราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำส่งผลให้การใช้จ่ายในหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันปรับลดลงต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับลดลงและกำลังซื้อของครัวเรือนทั้งภาคการผลิตและภาคเกษตรยังอ่อนแอ แม้แนวโน้มของราคาสินค้าเกษตรเริ่มมีทิศทางปรับดีขึ้น ภายหลังภาวะแห้งแล้งเริ่มคลี่คลายลง

อย่างไรก็ตาม การส่งออก ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 ส่วนสำคัญมาจากการส่งออกประเภทชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปจีนและฮ่องกงหดตัว จากภาวะการแข่งขันและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคไปเมียนมาขยายตัวดีต่อเนื่อง ด้านมูลค่าการนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 จากการนำเข้ากระแสไฟฟ้าจาก สปป.ลาว เป็นสำคัญ ขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางเพื่อผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสำหรับส่งออกยังหดตัว

สำหรับภาคเศรษฐกิจที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจภาคเหนือ ได้แก่ รายได้เกษตรกร หดตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 จากผลผลิตสินค้าเกษตร ที่หดตัวร้อยละ 21.2 จากผลของภาวะแล้งที่ผ่านมา ส่งผลให้พืชสำคัญทั้งข้าว ลิ้นจี่และมันสำปะหลัง ลดลงมาก อย่างไรก็ดี ผลผลิตปศุสัตว์ทั้งสุกร ไก่เนื้อและไข่ไก่เพิ่มขึ้น ตามความต้องการบริโภคของตลาดภายในประเทศและการส่งออก ด้านราคาสินค้าเกษตร ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง โดยลดลงเหลือร้อยละ 1.9 โดยเฉพาะราคาพืชสำคัญ คือ ข้าวและลิ้นจี่ สำหรับราคาปศุสัตว์ เช่น สุกรและไข่ไก่ ปรับเพิ่มขึ้น ยกเว้นราคาไก่เนื้อยังคงหดตัว

ผลผลิตอุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 15.5 จากการแข่งขันด้านราคาและเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งขัน ส่งผลให้การผลิตเพื่อการส่งออกในกลุ่มส่วนประกอบฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ลดลงเกือบทุกประเภทสินค้าโดยเฉพาะแผงวงจรรวม อีกทั้งการผลิตสิ่งทอและสินค้าเกษตรแปรรูปทั้งการสีข้าว การแปรรูปผักและผลไม้ยังลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบภาวะแห้งแล้ง อย่างไรก็ดี การผลิตเครื่องดื่มและเซรามิกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การผลิตหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีการปรับตัวโดยปรับสายการผลิตให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและความต้องการผลิตภัณฑ์มือถือและอุปกรณ์รถยนต์ที่ทันสมัยขึ้น

การลงทุนภาคเอกชน ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง โดยลดลงร้อยละ 8.8 จากภาวะซบเซาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และภาคการก่อสร้าง ส่วนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตโดยรวมยังไม่ชัดเจน สะท้อนจากเครื่องชี้การลงทุนสำคัญยังปรับลดลงทั้งพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล ยอดขายวัสดุก่อสร้าง และยอดการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ ขณะที่ปริมาณจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน

เสถียรภาพเศรษฐกิจภาคเหนือ โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากราคาอาหารสดที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังหดตัว ด้านอัตราการว่างงาน อยู่ในระดับต่ำและปรับลดลงจากไตรมาสก่อนเหลือร้อยละ 0.9 โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภาคบริการและการก่อสร้าง ขณะที่การใช้มาตรา 75 ในภาคการผลิตผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วนเริ่มนำเครื่องจักรมาใช้และได้ทยอยปรับลดแรงงาน ซึ่งคาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการเลิกจ้างอย่างมีนัยสำคัญ

ภาคการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2559 สาขาธนาคารพาณิชย์ มียอดคงค้างเงินฝาก 636,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 จากเงินฝากออมทรัพย์ของส่วนราชการเป็นสำคัญ ด้านเงินให้สินเชื่อ มียอดคงค้าง 581,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน จากการชำระหนี้คืนบางส่วนของภาคธุรกิจ ส่วนหนึ่งเป็นการบริหารวงเงินสินเชื่อให้สอดคล้องกับปริมาณธุรกรรม ส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวในอัตราชะลอลงทั้งภาคค้าปลีกค้าส่ง อุตสาหกรรมการผลิต ก่อสร้าง โรงแรม ภาคเกษตรและสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ยังหดตัว ทั้งนี้ สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 91.3 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน

ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร. 0 5393 1164 e-mail: Kusolc@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ