ฉบับที่ 66/2559
เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 21 ธันวาคม 2559
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 21 ธันวาคม 2559
ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในอัตราใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน แต่มีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มทยอยปรับสูงขึ้นอย่างช้า ๆ สำหรับภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้
เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวได้ในอัตราใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน โดยแม้ภาคการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบมากกว่าคาดจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย และการลงทุนภาคเอกชนโดยรวมยังทรงตัวอยู่ในระดับต่า แต่ถูกชดเชยโดยการส่งออกสินค้าที่มีสัญญาณดีขึ้นจากการย้ายฐานการผลิตสินค้าบางรายการมาที่ประเทศไทย รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นตามรายได้เกษตรกรและมาตรการกระตุ้นระยะสั้นของภาครัฐ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญอย่างต่อเนื่อง มองไปข้างหน้า คณะกรรมการฯ เห็นว่า เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว โดยแรงส่งทางเศรษฐกิจโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนอย่างมีนัยสำคัญอย่างไรก็ดี ความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโน้มไปด้านต่ำมากขึ้นจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่อาจชะลอลงมากกว่าคาด ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ที่จะมีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นและการค้าระหว่างประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่อาจน้อยกว่าประมาณการ นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากพัฒนาการทางการเมืองในยุโรปและปัญหาภาคการเงินในยุโรปและจีนยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทยอยปรับสูงขึ้น และคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในไตรมาสแรกของปี 2560 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันและราคาอาหารสดเป็นสำคัญ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับต่ำใกล้เคียงกับที่ได้ประเมินไว้ สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางของสาธารณชนยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่ากลางของกรอบเป้าหมาย
ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยสภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับสูงขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของปีก่อน ในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. โน้มอ่อนค่าแต่ในอัตราที่น้อยกว่าคู่ค้าคู่แข่งสำคัญโดยรวม ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเท่าที่ควร ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ สามารถรับมือกับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจการเงินทั้งในและต่างประเทศได้ค่อนข้างดีแต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในบางจุด อาทิ คุณภาพสินเชื่อของธุรกิจบางกลุ่มที่ด้อยลง และพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ในภาวะ อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน
คณะกรรมการฯ เห็นว่า ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง และความไม่แน่นอนของทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลักที่จะส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนมากขึ้น คณะกรรมการฯ เห็นว่า นโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนปรนต่อเนื่อง และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมเพื่อให้ภาวะการเงินโดยรวมเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1
โทร: 0-2283-6196, 0-2356-7872
e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam1@bot.or.th