ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นควรกำหนดให้วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นวันทำการสุดท้ายของตลาดซื้อคืนธปท. เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินนโยบายการเงิน รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาตลาดเงิน
การปิดตลาดซื้อคืนฯ เป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะช่วยให้ตลาดเงินของไทยพัฒนามากขึ้น โดยจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สถาบันการเงินหันมากู้ยืมกันเองแทน เช่น การทำธุรกรรมตลาดซื้อคืนภาคเอกชน (Private Repo) หรือการกู้ยืมระหว่างธนาคาร (Interbank)
ที่ผ่านมา ธปท. ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสภาพคล่องเพื่อรองรับการปิดตลาด ซื้อคืนฯ โดยเพิ่มจำนวนคู่ค้า สำหรับทำธุรกรรมซื้อคืนกับ ธปท.(Bilateral Repo) จาก 9 ราย เป็น 14 ราย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนที่ ธปท. ดำเนินนโยบายการเงินผ่านช่องทางดังกล่าวเกือบทดแทนตลาดซื้อคืนฯ ได้หมด
นอกจากนี้ ธปท. ได้ทยอยปรับปรุงกรอบการดำเนินนโยบายการเงิน ตั้งแต่ต้นปี 2550 เริ่มจากการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนระยะ 14 วันเป็น 1 วัน และ ปรับช่วงเวลาในการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (Reserves Maintenance Period) รวมทั้งสร้างกลไก การจำกัดขอบเขตความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยตลาด (Interest Rate Corridor) และท้ายสุดคือ การปิดตลาดซื้อคืนฯ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
การปิดตลาดซื้อคืนฯ เป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะช่วยให้ตลาดเงินของไทยพัฒนามากขึ้น โดยจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สถาบันการเงินหันมากู้ยืมกันเองแทน เช่น การทำธุรกรรมตลาดซื้อคืนภาคเอกชน (Private Repo) หรือการกู้ยืมระหว่างธนาคาร (Interbank)
ที่ผ่านมา ธปท. ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสภาพคล่องเพื่อรองรับการปิดตลาด ซื้อคืนฯ โดยเพิ่มจำนวนคู่ค้า สำหรับทำธุรกรรมซื้อคืนกับ ธปท.(Bilateral Repo) จาก 9 ราย เป็น 14 ราย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนที่ ธปท. ดำเนินนโยบายการเงินผ่านช่องทางดังกล่าวเกือบทดแทนตลาดซื้อคืนฯ ได้หมด
นอกจากนี้ ธปท. ได้ทยอยปรับปรุงกรอบการดำเนินนโยบายการเงิน ตั้งแต่ต้นปี 2550 เริ่มจากการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนระยะ 14 วันเป็น 1 วัน และ ปรับช่วงเวลาในการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (Reserves Maintenance Period) รวมทั้งสร้างกลไก การจำกัดขอบเขตความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยตลาด (Interest Rate Corridor) และท้ายสุดคือ การปิดตลาดซื้อคืนฯ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--