สรุปภาวะเศรษฐกิจสำคัญในภาคใต้ เดือนธันวาคม 2550

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 28, 2007 17:02 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

          เศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมปรับตัวดีขึ้น  ด้านอุปทาน ผลผลิตพืชผลเกษตรเพิ่มขึ้นตาม  ผลผลิตยางพารา และปาล์มน้ำมัน  ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง และการผลิต  ภาคอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวดีขึ้น  อย่างไรก็ตาม การทำประมงยังซบเซา ทางด้านอุปสงค์ การอุปโภค  บริโภคภาคเอกชน  การส่งออก  และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณขยายตัว  ส่วนการลงทุนเริ่มมีสัญญาน  ปรับตัวดีขึ้น  สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปทรงตัวเท่ากับเดือนก่อน  ไตรมาสที่ 4 ปี 2550  เศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมปรับตัวดีขึ้นทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน  ทางด้านอุปทาน  ภาคเกษตรและการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน  ขณะที่การทำประมง  และอุตสาหกรรมหดตัว  ด้านอุปสงค์  การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น   ขณะเดียวกันการ  เบิกจ่ายเงินงบประมาณขยายตัว  ส่วนการส่งออกมีสัญญานดีขึ้นในช่วงปลายปี  มีเพียงการลงทุนที่  ยังคงหดตัว  สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน
ภาคเกษตรกรรม
ในเดือนธันวาคม ผลผลิตพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิต ยางพารา และปาล์มนำมัน เป็นสำคัญ ขณะเดียวกันราคาพืชผลหลักปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.3 เนื่องจากราคายางพารา และปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.3 และ 68.4 ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้ ของเกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 48.6
การทำประมงทะเลซบเซา จากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ราคาสัตว์น้ำไม่ สามารถปรับสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายหยุดทำประมง เนื่องจากขาด เงินทุนหมุนเวียน และไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ โดยปริมาณสัตว์น้ำนำขึ้นที่ท่าเทียบเรือ ขององค์การสะพานปลาในภาคใต้เดือนนี้มีจำนวน 21,694.4 เมตริกตัน มูลค่า 919.0 ล้านบาท ลดลง จากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.3 และ 4.6 ตามลำดับ
การเพาะเลี้ยงกุ้ง
ผลผลิตกุ้งขาวลดลง จากภาวะชะลอการเลี้ยงของเกษตรกร กอปรกับผลผลิตส่วนหนึ่งได้มีการทยอยขายไปในช่วง 2-3 เดือนก่อน ด้านราคาอยู่ในเกณฑ์ดี โดย ราคากุ้งขาวที่ตลาดมหาชัยขนาด 50 60 และ 100 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 144.00 124.47 และ 85.60 บาท 1 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.9 14.1 และ 2.9 ตามลำดับ เนื่องจาก ปริมาณที่ลดลง และการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสำคัญปลายปี
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 ผลผลิตพืชผลหลักเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.0 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมัน ขณะเดียวกันราคาพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.8 เนื่องจากราคายางพาราและปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.2 และ 74.4 ส่งผลให้รายได้ เกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.3
ด้านการทำประมงหดตัวต่อเนื่องจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาสัตว์น้ำไม่ สามารถปรับสูงขึ้นได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการประมงหลายรายหยุดทำการประมง ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำนำขึ้นที่ท่าเทียบเรือในภาคใต้ไตรมาสนี้มีจำนวน 76,733.7 เมตริกตัน มูลค่า 2,950.8 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.6 และ 5.3 ตามลำดับ ด้านการ เพาะเลี้ยงกุ้ง ผลผลิตลดลงเนื่องจากเกษตรกรประสบผลขาดทุนจากวิกฤตราคากุ้งตกต่ำทำให้ชะลอ การเลี้ยง ส่วนราคากุ้งอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนทุกขนาด ภาคอุตสาหกรรมภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมของภาคใต้ยังคงลดลง แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยปริมาณการส่งออกยางพารา สัตว์น้ำแช่แข็ง (ไม่รวมด่านศุลกากรสะเดา) ถุงมือยาง อาหารบรรจุ กระป๋อง และไม้ยางพาราแปรรูปและเฟอร์นิเจอร์ ลดลงร้อยละ 16.2 16.2 14.7 12.3 และ 10.9 ตามลำดับ ตามการความต้องของตลาดต่างประเทศที่ชะลอลง และส่วนหนึ่งเป็นผลจากการใช้ระบบ e-Customs 2 ขณะที่ผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบลดลงร้อยละ 1.9
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของภาคใต้ลดลง แต่ปรับตัวดีขึ้น จากไตรมาสก่อน ปริมาณการส่งออกยางพารา อาหารบรรจุกระป๋อง สัตว์น้ำแช่แข็ง ถุงมือยาง และไม้ยางพาราแปรรูปและเฟอร์นิเจอร์ ลดลงร้อยละ 19.2 16.1 16.0 14.3 และ 4.3 ตามลำดับ เนื่องจากตลาดหลักชะลอการซื้อ ปัญหาการแข่งขันสูง ตลอดจนการขาดแคลนวัตถุดิบ อาทิปลาทูน่า เป็นราคา ณ ตลาดมหาชัย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ผู้ประกอบการสามารถส่งผ่านข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้าและใบขนสินค้าขาออก ผ่านพิธีการศุลกากรทาง อิเล็กทรอนิกส์แบบไร้สาย โดยไม่ต้องจัดส่งเอกสารในรูปแบบกระดาษ ณ ท่าเรือ หรือสนามบินทั่วประเทศที่ทำการส่งออก โดยผู้ประกอบการ สามารถกำหนดเลือกข้อมูลส่งออกไปปรากฎที่ท่าเรือส่งออกปลายทาง เช่น ท่าเรือแหลมฉบังหรือท่าเรือกรุงเทพฯ ได้ และส่วนหนึ่งเนื่องจากการนำระบบ e-Customs3มาใช้ ส่วนผลผลิตน้ำมันปาล์มลดลงร้อยละ 1.0 ปรับตัวดีขึ้นจากที่ลดลงร้อยละ 4.2 ในไตรมาสก่อน
การท่องเที่ยว
ภาวะการท่องเที่ยวขยายตัว โดยในเดือนธันวาคมมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองภาคใต้ประมาณ 374,191 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 16.6 โดยการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการ ท่องเที่ยวและกระตุ้นตลาดในงานเทศกาลสำคัญช่วงปลายปี รวมทั้งเพิ่มเที่ยวบินพิเศษทั้งในและ ต่างประเทศ ทั้งเที่ยวบินประจำ แบบเช่าเหมาลำ และเที่ยวบินต้นทุนต่ำ ส่งผลให้จังหวัดภูเก็ตมี นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางผ่านตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.9 ส่วนภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ทั้งภาครัฐและเอกชนมีการจัดกิจกรรมกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเริ่มมั่นใจและเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้ในเดือนนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลาลดลงจากเดือน เดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.5 แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.5
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 ภาวะการท่องเที่ยวของภาคใต้ขยายตัว มีนักท่องเที่ยวชาว ต่างประเทศเดินทางผ่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ประมาณ 894,303 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส เดียวกันปีก่อนร้อยละ 18.8 เนื่องจากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันทำตลาดและจัดกิจกรรมการ ท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นจาก ไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 28.3 สำหรับทางภาคใต้ตอนล่าง สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่เริ่มคลี่คลาย นักท่องเที่ยวเริ่มมั่นใจในความปลอดภัย ขณะเดียวกันภาครัฐและ เอกชนมีการส่งเสริมและกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เดินทางมาในจังหวัดสงขลาเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกัน ปีก่อนร้อยละ 2.1 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส ก่อนที่ลดลงร้อยละ 29.1
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนของภาคใต้โดยรวมขยายตัวต่อเนื่อง โดย ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.1 และเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เนื่องจากปัจจัยบวกด้านราคายางพาราและปาล์มน้ำมันที่อยู่ใน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ผู้ประกอบการสามารถส่งผ่านข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้าและใบขนสินค้าขาออก ผ่านพิธีการศุลกากรทาง อิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร โดยไม่ต้องจัดส่งเอกสารในรูปแบบกระดาษ ณ ท่าเรือ หรือสนามบินทั่วประเทศที่ทำการส่งออก โดย ผู้ประกอบการสามารถกำหนดเลือกข้อมูลส่งออกไปปรากฎที่ท่าเรือส่งออกปลายทาง เช่น ท่าเรือแหลมฉบังหรือท่าเรือกรุงเทพฯ ได้ระดับสูง และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี โดยในเดือนนี้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 ส่วน ดัชนีหมวดยานยนต์ยังคงลดลงร้อยละ 4.1 เนื่องจากการลดลงของการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ร้อยละ 32.3 และ 0.2 ในขณะที่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล เพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.2 สำหรับดัชนีหมวดเชื้อเพลิงลดลงร้อยละ 3.1 เนื่องจากการใช้น้ำมันเบนซินและ แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซลลดลง ขณะที่การใช้ก๊าซแอลพีจีขยายตัวต่อเนื่อง
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยไตรมาสนี้ดัชนีอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.3 และเมื่อ เทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ทั้งนี้ เครื่องชี้ที่สำคัญ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 เนื่องจากราคายางและปาล์มน้ำมันอยู่ในระดับสูง ประกอบกับภาวะการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามัน ขยายตัวดี และสถานการณ์ท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่เริ่มดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจมาก ขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงและสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ยังคงเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนเริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือนนี้พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างใน เขตเทศบาล เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 47.8 โดยเพิ่มขึ้นทางภาคใต้ตอนบนทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดสุราษฏร์ธานี และกระบี่ การจดทะเบียนรถบรรทุกส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 จาก การเมืองที่เริ่มชัดเจนขึ้น รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติการ ส่งเสริมการลงทุนมี 2 โครงการ เงินลงทุน 73.8 ล้านบาท เป็นโครงการผลิตก๊าซชีวภาพ และโครงการ ผลิตเรือไฟเบอร์กล๊าส อย่างละ 1 โครงการ ตั้งอยู่ในภาคใต้ตอนบนทั้ง 2 โครงการ ส่วนการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลรายใหม่ลดลงทั้งจำนวนรายและทุนจดทะเบียน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม-ภัตตาคาร-ร้านอาหาร และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยอยู่ทางภาคใต้ ตอนบนโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต เป็นสำคัญ
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว โดยพื้นที่ก่อสร้างลดลงจาก ไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.7 แต่ปรับตัวดีขึ้นจากที่ลดลงร้อยละ 16.5 ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้ พื้นที่ก่อสร้างลดลงเกือบทุกประเภท เว้นแต่พื้นที่ก่อสร้างเพื่อกรณีอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 267.7 เนื่องจากมีการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์และที่จอดรถในจังหวัดสุราษฏร์ธานี และภูเก็ต เป็น สำคัญ ด้านโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสนี้มี 14 โครงการ ลดลงจากไตรมาส เดียวกันปีก่อน 5 โครงการ เงินลงทุนรวม 4,407.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.3 ส่วนการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคล ทั้งจำนวนรายและทุนจดทะเบียนลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.8 และ 19.5 ตามลำดับ
การจ้างงาน
ในเดือนนี้มีผู้ประกอบการแจ้งความต้องการแรงงานผ่านสำนักงานจัดหางานจังหวัดใน ภาคใต้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.4 ส่วนใหญ่เป็นความต้องการแรงงานในจังหวัดสงขลา พังงา และระนอง ด้านผู้สมัครงานลดลงร้อยละ 20.7 ส่วนใหญ่มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป และระดับ มัธยมศึกษา ขณะเดียวกันการบรรจุงานลดลงร้อยละ 27.0 ส่วนใหญ่เป็นการบรรจุงานในจังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา เป็นสำคัญ ทางด้านผู้เข้าประกันตน ณ สิ้นเดือนนี้มี จำนวน แรงงานในภาคใต้ที่เข้าโครงการประกันสังคม ตามมาตรา 33 จำนวน 585,476 คน เพิ่มขึ้น จากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.4 โดยเพิ่มขึ้นเกือบทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดระนอง ยะลา สงขลา และปัตตานี
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 ณ สิ้นไตรมาสนี้มีจำนวนแรงงานในภาคใต้ที่เข้าโครงการ ประกันสังคม ตามมาตรา 33 จำนวน 585,476 คน เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.4 โดยเพิ่มขึ้นเกือบทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดระนอง ยะลา สงขลา และปัตตานี ด้านความ ต้องการแรงงานผ่านสำนักงานจัดหางานจังหวัดในภาคใต้มีจำนวน 8,988 อัตรา ลดลงจากไตรมาส เดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.1 ขณะที่มีผู้สมัครงาน 9,860 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 และมีการบรรจุงาน 5,351 คน ลดลงร้อยละ 11.6 โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีบรรจุงานมากที่สุด รองลงมาคือ จังหวัด นครศรีธรรมราช
ระดับราคา
ในเดือนธันวาคม 2550 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของภาคใต้อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ทรงตัวเท่ากับ เดือนก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 2.7 ตามการเพิ่มขึ้นของ หมวดข้าวสารเหนียว (15.9%) หมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม (8.8%) หมวดเป็ดไก่ (7.7%) และหมวด ผักและผลไม้ (3.2%) เป็นสำคัญ ส่วนสินค้าในหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาน้eมันเชื้อเพลิง ประกอบกับมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม เป็นสำคัญ ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของภาคใต้อยู่ที่ร้อยละ 1.9 เร่งขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 1.6 ใน เดือนก่อน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของภาคใต้อยู่ที่ร้อยละ 3.0 เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 1.1 ในไตรมาสก่อน เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 2.5 ตามการเพิ่มขึ้นของสินค้าหมวดเป็ดไก่ (8.1%) หมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม (7.7%) และหมวดผัก และผลไม้ (3.9%) ส่วนหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 จากการสูงขึ้นของ หมวดยานพาหนะและน้eมันเชื้อเพลิง (11.3%) และหมวดพาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร (7.4%) ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของภาคใต้ ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 อยู่ที่ร้อยละ 1.6 เร่งตัวจากร้อยละ 1.2 ในไตรมาสก่อน
การค้าต่างประเทศ
ในเดือนนี้มีมูลค่าการส่งออก 922.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 7.7 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ลดลงร้อยละ 4.3 เป็นการเพิ่มขึ้นจากการส่งออกดีบุก ยางพารา และอาหารกระป๋อง ร้อยละ 254.0 11.7 และ 4.8 ตามลำดับ ขณะที่ส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปและ เฟอร์นิเจอร์ ถุงมือยาง และสัตว์น้eแช่แข็ง ลดลงร้อยละ 12.1 11.5 และ 8.5 ตามลำดับ ด้านมูลค่า การนำเข้ามีจำนวน 488.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.8 ตามการนำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้าง และสัตว์น้eแช่แข็ง เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ขณะที่นำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ลดลงร้อยละ 20.3
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคใต้มีมูลค่า 2,631.4 ล้าน ดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.3 ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำระบบ e- Customs มาใช้ โดยสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าลดลง ได้แก่ ถุงมือยาง สัตว์น้eแช่แข็ง ยางพารา และไม้ ยางพาราแปรรูปและเฟอร์นิเจอร์ ลดลงร้อยละ 11.9 10.3 1.6 และ 1.3 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การ ส่งออกดีบุก และอาหารกระป๋องเพิ่มขึ้นร้อยละ 135.8 และ 3.4 ด้านการนำเข้ามีมูลค่ารวม 1,449.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.6 ตามการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าน้eมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์ ก่อสร้าง และสัตว์น้eแช่แข็ง ขณะที่นำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ลดลงร้อยละ 4.8
ภาคการคลัง ในเดือนธันวาคม การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการ ในภาคใต้ มีจำนวน 9,946.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 53.9 ตามการเบิกจ่ายของคลังจังหวัด นครศรีธรรมราช สงขลา และยะลา เป็นสำคัญ เนื่องจากกระทรวงการคลังเร่งรัดการเบิกจ่ายและ การก่อหนี้ผูกพันให้ได้ร้อยละ 70 ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2551 รวมทั้งมีการเบิกเงินวิทยะฐานะของ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนรายได้จากการจัดเก็บภาษีมีจำนวน 2,343.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 15.5 ตามการเพิ่มขึ้นของการจัดภาษีสรรพากรร้อยละ 17.8 และภาษีศุลกากรร้อยละ 6.6 เป็นสำคัญ ขณะที่จัดเก็บภาษีสรรพสามิตลดลงร้อยละ 1.4
ไตรมาสที่ 4 ปี 2550 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการในภาคใต้มีจำนวน 27,544.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 42.9 โดยมีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นทุก คลังจังหวัด ส่วนรายได้จากการจัดเก็บภาษีอากร มีจำนวน 7,196.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.1 ตามการจัดเก็บภาษีสรรพากร และภาษีภาษีศุลกากร เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7 และ 7.3 ขณะที่จัดเก็บ ภาษีสรรพสามิตลดลงร้อยละ 0.1
ภาคการเงิน
ณ สิ้นเดือนธันวาคม เงินฝากคงค้างของสาขาธนาคารพาณิชย์มีจำนวนประมาณ 392,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.0 เป็นอัตราที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ฝากเงินมีทางเลือกลงทุนโดยการซื้อหน่วยลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ที่ให้ ผลตอบแทนสูงกว่า นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ได้เปลี่ยนไประดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้ ประเภทตั๋วแลกเงินแทนการระดมเงินฝาก เพราะมีต้นทุนโดยรวมต่eกว่าด้วย ทางด้านสินเชื่อคงค้างมี จำนวนประมาณ 334,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เป็นการเพิ่มในอัตราใกล้เคียงกับไตรมาส ก่อน โดยการขยายสินเชื่อส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก คือจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และ สงขลา ขณะที่ปัจจัยลบด้านความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีผลต่อการดำเนินงานของ สถาบันการเงินในพื้นที่ 3 จังหวัด
ส่วนวิชาการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้
http://www.bot.or.th/bothomepage/databank/RegionEcon/hybr/Southern.htm

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ