ฉบับที่ 58 / 2552
เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 2 ธันวาคม 2552
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
สถานการณ์เศรษฐกิจการเงินโลกปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก (G3) และกลุ่มประเทศเอเชียออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่การฟื้นตัวยังจำเป็นต้องพึ่งพาการสนับสนุนด้านนโยบายต่อไป แรงกดดันด้านเงินเฟ้อโลกขณะนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไปยังมีอยู่ ซึ่งควรต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
เศรษฐกิจของไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 และเดือนตุลาคมชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยจากช่วงก่อนหน้า โดยการฟื้นตัวมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ เช่น คำสั่งซื้อสินค้าทั้งจากในและต่างประเทศ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจ รายได้ภาคเกษตรภาวะการจ้างงานและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ประเมินว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนด้านนโยบายต่อไป
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เริ่มปรับตัวเป็นบวกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากติดลบมาตั้งแต่ช่วงต้นปี2552 โดยเป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาลดลงมามาก อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับใกล้ศูนย์ คณะกรรมการฯ จึงประเมินว่าแรงกดดันของเศรษฐกิจต่อภาวะเงินเฟ้อในขณะนี้ ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ แต่จะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสมที่จะเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ ร้อยละ 1.25 ต่อปี
ธนาคารแห่งประเทศไทย
2 ธันวาคม 2552
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1 โทร: 0 2283 5621, 02283 6186
e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย