ฉบับที่ 9/2553
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากประมาณการเศรษฐกิจ ที่ปรับตัวดีขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน ทำให้บางประเทศเริ่มทยอยลดการผ่อนคลายการดำเนินนโยบายการเงินลง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ เห็นว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ เช่น อัตราการว่างงานที่สูง และปัญหาหนี้ภาครัฐในบางประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดต่อความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ขยายตัวดีกว่าที่ตลาดคาด และข้อมูลเดือนมกราคมสะท้อนการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องและมีการกระจายตัวที่ดีขึ้น โดยการส่งออกและการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนกลับเข้าสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤต โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ เช่น รายได้เกษตรกร และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น รวมทั้งแรงกระตุ้นจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า ความเสี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ปรับลดลง เทียบกับการประชุม ครั้งก่อน
อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.7 เป็นผลจากราคาน้ำมันและอาหารสด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะต่อไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ
คณะกรรมการฯ เห็นว่า ความเสี่ยงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลง ทำให้ความจำเป็น ที่ต้องมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษเช่นในปัจจุบันได้ลดน้อยลงไปมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกที่ยังมีอยู่ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ ที่อาจจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.25 ต่อปี ก่อนที่จะพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เข้าสู่ภาวะปกติต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1
โทร: 0 2283 5621, 02283 6186
e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย