การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟ

ข่าวกฏหมายและประกาศ Sunday May 9, 2004 10:29 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                                                   9 มิถุนายน 2547 
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ทุกบริษัท
ที่ สนส.(21) ว. 81 / 2547 เรื่อง การนำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
ธนาคารแห่งประเทศไทยขอส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การให้กู้ยืมเงินแก่ หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุน บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2547 และได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 121 ตอนพิเศษ 62ง ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2547 แล้ว
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือ
1. ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่อง การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการ ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2545
2. ในประกาศฉบับนี้ ได้ปรับปรุงสาระสำคัญของประกาศฉบับเดิมดังนี้
2.1 เพิ่มข้อยกเว้นให้การให้กู้ยืมเงินแก่ หรือลงทุนในกิจการที่กระทรวงการคลังมีผล ประโยชน์เกี่ยวข้องตามข้อ 4.3 (ข) ไม่ถูกบังคับตามประกาศฉบับนี้
2.2 เพิ่มข้อยกเว้นให้การให้กู้ยืมเงินแก่ หรือลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งโดยส่วนราชการ ตามข้อ 4.3 (ค) ไม่ถูกบังคับตามประกาศฉบับนี้
จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค)
ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายสถาบันการเงิน
ผู้ว่าการ แทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผล ประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2547
ฝ่ายนโยบายความเสี่ยงและวิเคราะห์ สายนโยบายสถาบันการเงิน
โทร. 0-2283-5304, 0-2283-5303
หมายเหตุ [
] ธนาคารแห่งประเทศไทยจะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่......ณ.........
[X
] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
สนสว30-คส24002-25470601ด
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้น
ของบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
_________________________________
1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกำหนดแนวทางรองรับไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของสถาบันการเงิน และ เพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ปรับปรุงประกาศธนาคารแห่ง ประเทศไทย
2. อำนาจตามกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 26(3) และ 26(4)(จ) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ เงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไข เพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 พ.ศ. 2526 ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงิน แก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้น ตามที่กำหนดในประกาศ ฉบับนี้
3. ขอบเขตการบังคับใช้
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิต ฟองซิเอร์ ตามกฎหมายการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ทุกบริษัท
4. เนื้อหา
4.1ให้ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผล ประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิต ฟองซิเอร์ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2545
4.2 ในประกาศฉบับนี้
"บริษัท" หมายความว่า บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิต ฟองซิเอร์
"บริษัทจำกัด" หมายความว่า บริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัท มหาชนจำกัดตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น
"ผู้ที่เกี่ยวข้อง" หมายความว่า บุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับอีกบุคคลหนึ่งในลักษณะ อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(1) เป็นคู่สมรส บิดา มารดา หรือผู้รับบุตรบุญธรรม
(2) เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม
(3) เป็นบริษัทจำกัดที่บุคคลนั้นหรือบุคคลตาม (1) หรือ (2) มีอำนาจในการจัดการ
(4) เป็นบริษัทจำกัดที่บุคคลนั้นหรือบุคคลตาม (1) หรือ (2) มีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
(5) เป็นบริษัทจำกัดที่บุคคลนั้นหรือบุคคลตาม (1) หรือ (2) มีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการ
(6) เป็นบริษัทลูกของบริษัทจำกัดตาม (3) หรือ (4) หรือ (5)
(7) เป็นบริษัทร่วมของบริษัทจำกัดตาม (3) หรือ (4) หรือ (5)
(8) เป็นตัวการหรือตัวแทน
ในกรณีที่บุคคลใดถือหุ้นในบริษัทจำกัดใดตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไปของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริษัทจำกัดนั้นเป็นผู้ที่เกี่ยวข้อง กับบุคคลดังกล่าว
"บริษัทแม่" หมายความว่า บริษัทจำกัดที่มีอำนาจควบคุมกิจการของบริษัทจำกัดอื่น
"บริษัทลูก" หมายความว่า
(1) บริษัทจำกัดที่มีบริษัทจำกัดอื่นมีอำนาจควบคุมกิจการของบริษัทจำกัดนั้น
(2) บริษัทลูกของบริษัทจำกัดตาม (1) ทุกทอด
"บริษัทร่วม" หมายความว่า บริษัทลูกที่มีบริษัทแม่ร่วมกัน
"อำนาจควบคุมกิจการ" หมายความว่า
(1) การที่บุคคลหนึ่งมีหุ้นในบริษัทจำกัดหนึ่งเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือ
(2) การที่บุคคลหนึ่งมีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ
บริษัทจำกัดหนึ่งไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่ว่าเพราะเหตุอื่นใด หรือ
(3) การที่บุคคลหนึ่งมีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งและถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดในบริษัทจำกัดหนึ่ง
ในกรณีที่บุคคลหนึ่งมีหุ้นในบริษัทจำกัดหนึ่งตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไปของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลที่มีหุ้นดังกล่าวมีอำนาจควบคุมกิจการในบริษัทจำกัดนั้น
"กิจการที่บริษัท หรือกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง" หมายความว่า
(1) บริษัทจำกัดที่บริษัท หรือกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัท หรือผู้ที่เกี่ยวข้องของบุคคลที่กล่าวข้างต้น ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น หรือมีอำนาจควบคุมกิจการในบริษัทจำกัดนั้น
(2) บริษัทร่วมของบริษัท
"ผู้ถือหุ้น" หมายความว่า
(1) บุคคลที่ถือหุ้นในบริษัทไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทโดยให้นับรวมถึงหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย
(2) บุคคลที่มีอำนาจควบคุมกิจการของบริษัทรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย
(3) บริษัทจำกัดที่บุคคลตาม (1) หรือ (2) ถือหุ้นเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น หรือมีอำนาจควบคุมกิจการในบริษัทจำกัดนั้น
"ธุรกิจทางการเงิน" หมายความว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจลิสซิ่ง ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจการรับโอนโดยมีค่าตอบแทนซึ่งสิทธิเรียกร้องที่เกิดจากการจำหน่ายสินค้า เป็นต้น
"ธุรกิจสนับสนุนสถาบันการเงิน" หมายความว่า บริษัทจำกัดที่
(1) มีสถาบันการเงินใดสถาบันการเงินหนึ่งถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น หรือมีสถาบันการเงินหลายแห่งถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น และ
(2) ประกอบกิจการอันเป็นงานด้านปฏิบัติการ (back office) หรืองานด้านสนับสนุน(support) ซึ่งให้บริการแก่สถาบันการเงินและบุคคลอื่น เช่น การบัญชีและการเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศตรวจสอบภายใน กฎหมาย การกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบริษัท บัตรเครดิต ข้อมูลเครดิต รับส่งเอกสารศูนย์ฝึกอบรม รักษาความปลอดภัย เป็นต้น
4.3 ให้บริษัทระงับการให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในกิจการที่บริษัท หรือกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้กู้ยืมเงินแก่ ผู้ถือหุ้นของบริษัทในปริมาณเกินสมควร
การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในปริมาณเกินสมควร หมายความว่า การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนดังต่อไปนี้
(1) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันแก่กิจการหรือบุคคลตาม วรรคหนึ่งเกินร้อยละ 5 ของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของบริษัท หรือ
(2) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันแก่กิจการหรือบุคคลตามวรรคหนึ่งเกินร้อยละ 50 ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดนั้น หรือ
(3) การให้กู้ยืมเงินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันแก่กิจการหรือบุคคลตามวรรคหนึ่งเกินร้อยละ 25 ของยอดหนี้สินรวมของบริษัทจำกัดหรือบุคคลนั้น
การให้กู้ยืมเงินตามวรรคหนึ่ง และวรรคสองข้างต้นโดยการรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงินให้ถือเป็นการให้กู้ยืมเงินแก่ทั้งผู้ทรงซึ่งขายตั๋วเงิน และบุคคลซึ่งต้องรับผิดตามกฎหมายตั๋วเงินนั้นด้วย
การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสามไม่ใช้บังคับแก่กรณี
(ก) การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในส่วนราชการ
(ข) การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในบริษัทจำกัดที่กระทรวงการคลังมีอำนาจควบคุมกิจการหรือถือหุ้นเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น
(ค) การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งโดยส่วนราชการ
(ง) การให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นหรือบริษัทจำกัดที่นิติบุคคลดังกล่าวมีอำนาจควบคุมกิจการหรือถือหุ้นเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว ทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น ในระหว่างเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2544
(จ) การให้กู้ยืมเงินโดยมีหลักประกันเต็มจำนวนเป็นเงินฝากสถาบันการเงิน หรือ หลักทรัพย์รัฐบาลไทยที่ปราศจากภาระผูกพันและโอนเปลี่ยนมือได้ ทั้งนี้ การตีราคาหลักทรัพย์ให้ถือเอามูลค่า ที่ตราไว้ของหลักทรัพย์หรือตราสารนั้น
(ฉ) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในธุรกิจทางการเงิน และธุรกิจสนับสนุนสถาบันการเงิน
(ช) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในธุรกิจที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งบริษัท หรือกรรมการหรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นไม่ได้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ในธุรกิจนั้นก่อนการปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนธุรกิจที่บริษัท หรือกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือ บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องก่อนการปรับโครงสร้างหนี้ หากการ ปรับโครงสร้างหนี้จำเป็นต้องให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนเพิ่มจนเกินอัตราที่กำหนดตามวรรคสอง จะต้องได้รับ อนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน
4.4 ให้บริษัทระงับการให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่บริษัท หรือกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้กู้ยืมเงินแก่ ผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดพิเศษผิดไปจากปกติ
การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในกรณีต่อไปนี้ให้ถือว่า มีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดพิเศษผิดไปจากปกติ
(1) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนโดยไม่ได้พิจารณาถึงฐานะและผลการดำเนินงานของ ธุรกิจหรือไม่ได้มีการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ
(2) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนในลักษณะที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กิจการนั้น เช่นเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราปกติของลูกค้าที่มีความเสี่ยงระดับเดียวกัน หรือไม่มีการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน ไม่ดำเนินการให้หลักประกันมีผลบังคับได้ตามกฎหมาย เป็นต้น
(3) การให้กู้ยืมเงินที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าลูกหนี้ไม่ได้ดำเนินธุรกิจจริง
4.5 ให้บริษัทจัดทำนโยบายการให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่บริษัท หรือ กรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือ ให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยจะต้องมีข้อกำหนดอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการรับและจ่ายเงิน การตรวจสอบและการควบคุมภายในของบริษัทเงินทุนและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
(2) การให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนดังกล่าวข้างต้น ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทด้วยมติเป็นเอกฉันท์
(3) ห้ามกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับการให้กู้ยืมเงินเข้าร่วมพิจารณาอนุมัติการให้กู้ยืมเงินนั้น
4.6 ในกรณีที่บริษัทใดได้ให้กู้ยืมเงินแก่หรือลงทุนในกิจการที่บริษัท หรือกรรมการ หรือ ผู้จัดการ หรือพนักงานหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทนั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้กู้ยืม เงินแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทเกินอัตราส่วนที่กล่าวในข้อ 4.3 วรรคสองข้างต้นก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ และไม่ใช่เป็นการให้กู้ยืมเงินที่มีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดพิเศษผิดไปจากปกติดังกล่าวในข้อ 4.4 ให้คงอัตรา ส่วนนั้นต่อไปได้ แต่จะให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนเพิ่มขึ้นอีกไม่ได้เว้นแต่
(ก) ในกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุญาตหรือสั่งการเป็นอย่างอื่นไว้แล้ว ให้บริษัทปฏิบัติตามนั้น
(ข) ในกรณีที่ได้ทำสัญญาให้กู้ยืมเงินโดยมีวงเงินเกินอัตราที่กำหนดในข้อ 4.3 วรรคสองก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้บริษัทปฏิบัติตามสัญญานั้นได้ แต่จะเพิ่มวงเงินหรือขยายกำหนดเวลา ต่าง ๆ ตามสัญญาไม่ได้
(ค) ในกรณีที่เป็นเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการที่ประกอบธุรกิจการนำเข้าหรือส่งออก บริษัทสามารถให้กู้ยืมเงินในวงเงินเดิมต่อไปได้อีก 3 ปี นับแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2544หลังจากนั้นจะต้องลดอัตราส่วนลงเหลือตามอัตราที่กำหนด
5. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2547
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สนสป30-คส24002-25470601
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ