การปรับลดอัตราส่วนเพดานการนับตราสารทุนประเภทใหม่ ๆ เป็นเงินกองทุนชั้นที่

                                                         15  มิถุนายน  2542
เรียน    ผู้จัดการ
        ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศทุกธนาคาร
       บริษัทเงินทุนทุกบริษัท
        ที่ ธปท.ง.(ว)  2240/2542  เรื่อง  การปรับลดอัตราส่วนเพดานการนับตราสารทุนประเภทใหม่ ๆ เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1ตามที่ธนาคารได้เคยมีหนังสือที่ ธปท.ง.(ว) 1194/2542 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2542 
        เรื่อง หลักเกณฑ์การนับตราสารทุนประเภทใหม่ ๆ เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 โดยได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนสามารถนับหุ้นบุริมสิทธิที่ขายควบกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ได้ไม่เกินหนึ่งในสาม (ร้อยละ 33.33) ของเงินกองทุนชั้นที่ 1  ณ ขณะที่ออกจำหน่ายและรวมหุ้นบุริมสิทธิข้างต้นแล้ว  ทั้งนี้ หุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนดไว้
        บัดนี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว ความจำเป็นในการพึ่งพาตราสารใหม่ ๆ เป็นเครื่องมือในการเพิ่มทุนจึงลดลงแล้ว  ธนาคารจึงเห็นสมควรปรับลดอัตราส่วนเพดานสูงสุดในการนับหุ้นบุริมสิทธิที่ขายควบกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ลงเป็นไม่เกินร้อยละ 25 โดยให้อัตราส่วนที่กล่าวข้างต้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543 เป็นต้นไป   ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถวางแผนการล่วงหน้าได้โดยถูกต้อง  
        อนึ่ง อัตราส่วนที่กล่าวนี้ไม่ใช้บังคับกับสถาบันการเงินที่ธนาคารได้เห็นชอบในหลักการให้นับหุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวข้างต้นเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ก่อนหน้าวันที่ 1 มกราคม 2543
              จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
                                                          ขอแสดงความนับถือ
                                                          (ม.ร.ว.จัตุมงคล  โสณกุล)
                                                                   ผู้ว่าการ
        ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงิน
        ง*ว90-กส22105-25420615ด
        โทร. 282-7715, 283-5939