ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บง.อาจจ่ายหรืออาจเรียกได้

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday April 19, 1995 16:42 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                         ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรือาจเรียกได้
————————————————
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้บริษัทเงินทุนจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืม หรือรับจากประชาชนตามเอกสารการกู้ยืมเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน และดอกเบี้ยหรือส่วนลดบัตรเงินฝากได้ไม่เกินอัตราที่บริษัทเงินทุนนั้นประกาศ
ในกรณีที่วันครบกำหนดชำระเงินตามเอกสารการกู้ยืมเงินตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทเงินทุน ให้ถือเอาวันทำการวันแรกต่อจากวันหยุดทำการนั้นเป็นวันครบกำหนดชำระเงินตามเอกสารดังกล่าว ทั้งนี้ ให้บริษัทเงินทุนคิดดอกเบี้ยให้สำหรับวันหยุดทำการนั้นด้วยตามอัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้ในเอกสาร กรณีเป็นบัตรเงินฝากที่ไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ยให้บริษัทเงินทุนคิดดอกเบี้ยสำหรับวันหยุดทำการนั้น ไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเมื่อทวงถามตามที่บริษัทเงินทุนนั้นประกาศกำหนด
ข้อ2ให้บริษัทเงินทุนเรียกดอกเบี้ยเงินให้กู้ หรือส่วนลดได้ไม่เกินอัตราที่บริษัทเงินทุนประกาศกำหนด เว้นแต่การให้กู้ยืมเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดเฉพาะรายที่ได้ทำสัญญาผูกพันไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2535ให้เรียกได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่บริษัทเงินทุนประกาศกำหนดในแต่ละครั้ง หักด้วยอัตราร้อยละ 1.5 ต่อปี
ข้อ 3 ให้บริษัทเงินทุนประกาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ยืมหรือรับจากประชาชนและดอกเบี้ยหรือส่วนลดสำหรับบัตรเงินฝากตามจำนวนเงิน ระยะเวลาการกู้ยืมหรือรับเงิน หรือฝากฝากเงิน และเงื่อนไขรวมทั้งประกาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยและส่วนลดสูงสุดที่บริษัทเงินทุนจะเรียกจากลูกค้าและอัตราดอกเบี้ยที่เรียกจากลูกค้าชั้นดี ตลอดจนประกาศสูตรหรือวิธีคำนวณราคาบัตรเงินฝาก ที่บิรษัทเงินทุนจะซื้อขายทั้งนี้ ให้บริษัทเงินทุนส่งประกาศดังกล่าวให้ธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่บริษัทเงินทุนออกประกาศ พร้อมทั้งให้ปิดประกาศดังกล่าวในที่เปิดเผย ณ สำนักงานของบริษัทเงินทุนนั้นทุกแห่ง
ข้อ 4 ประกาศนี้ไม่ใช้บังคับแก่กรณีการกู้ยืมเงินและการให้กู้ยืมเงินระหว่างบริษัทเงินทุน กับสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินหรือสถาบันการเงินต่างประเทศ หรือกรณีบริษัทเงินทุนกู้ยืมเงิน หรือรับเงินจากประชาชนโดยออกตั๋วแลกเงิน
ข้อ 5 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นสิบห้าวันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 เมษายน 2538
วิจิตร สุพินิจ
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 112 ตอนที่ 33 ง วันที่ 25 มษายน 2538)

แท็ก เครดิต  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ