ธนาคารแห่งประเทศไทย
7 ตุลาคม 2540
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทุกบริษัท
ที่ ธปท.ง.(ว) 3046/2540 เรื่อง ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่องดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 3)
ตามที่ธนาคารด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกประกาศลงวันที่ 18 กันยายน 2540 กำหนดอัตราดอกเบี้ยหรือส่วนลดสูงสุดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ โดยมีสาระสำคัญคือ
1. อัตราดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนจะจ่ายสำหรับเงินกู้ยืมประเภทจ่ายคืนเมื่อทวงถาม ให้มีอัตราไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5 ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะ 3 เดือน
2. อัตราดอกเบี้ยหรือส่วนลดสำหรับเงินกู้ยืมประเภทมีระยะเวลา ให้มีอัตราไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5 ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะเดียวกัน บวกร้อยละ 3 ต่อปี และห้ามจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ยืมที่มีธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝาก
ธนาคารได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ภาวะสภาพคล่องของระบบการเงินในปัจจุบันมีความผันผวนค่อนข้างมาก และอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง เพื่ออำนวยให้บริษัทเงินทุนสามารถระดมเงินจากประชาชนได้คล่องตัวและไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้ยืมจากตลาดเงินซึ่งมีต้นทุนสูงมากจนเกินไป ธนาคารด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงผ่อนผันเป็นการชั่วคราวให้เงินกู้ยืมหรือได้รับจากประชาชนที่มีกำหนดเวลาชำระคืนตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป จ่ายดอกเบี้ยได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5 ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะ 3 เดือน บวกร้อยละ 3 ต่อปี ส่วนเงินกู้ยืมที่มีกำหนดเวลาชำระคืนไม่ถึง 7 วัน และที่ไถ่ถอนก่อนครบกำหนดให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี จนกว่าภาวะผันผวนในตลาดเงินของประเทศจะคลี่คลายลง
พร้อมนี้ได้แนบประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 3) ซึ่งได้นำลงในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 114 ตอนพิเศษ 91ง ลง(ฉบับที่ 3) ซึ่งได้นำลงในราชกิจจ
ขอแสดงความนับถือ
(นางธัญญา ศิริเวทิน)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ
ผู้ว่าการแทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 3)
ฝ่ายกำกับสถาบันการเงิน
โทร. 2835856, 2835832, 2800631
------------------------------------------------------------------------
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้
(ฉบับที่ 3)
---------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30(1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (2) และ (3) ของข้อ 2 แห่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2540 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 18 กันยายน 2540 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
(2) เงินกู้ยืมหรือได้รับจากประชาชนที่มีกำหนดเวลาชำระคืนไม่ถึง 7 วัน และที่บริษัทเงินทุนยินยอมชำระคืนก่อนครบกำหนดเวลาไม่ถึง 7 วัน จ่ายดอกเบี้ยหรือส่วนลดได้ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี
(3) เงินกู้ยืมหรือได้รับจากประชาชนที่มีกำหนดเวลาชำระคืนตั้งแต่ 7 วัน แต่ไม่ถึง 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยหรือส่วนลดได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะเวลา 3 เดือน ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศในสัปดาห์ก่อนหน้า บวกด้วยอัตราร้อยละ 3 ต่อปี”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2540
(นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
7 ตุลาคม 2540
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทุกบริษัท
ที่ ธปท.ง.(ว) 3046/2540 เรื่อง ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่องดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 3)
ตามที่ธนาคารด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกประกาศลงวันที่ 18 กันยายน 2540 กำหนดอัตราดอกเบี้ยหรือส่วนลดสูงสุดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ โดยมีสาระสำคัญคือ
1. อัตราดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนจะจ่ายสำหรับเงินกู้ยืมประเภทจ่ายคืนเมื่อทวงถาม ให้มีอัตราไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5 ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะ 3 เดือน
2. อัตราดอกเบี้ยหรือส่วนลดสำหรับเงินกู้ยืมประเภทมีระยะเวลา ให้มีอัตราไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5 ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะเดียวกัน บวกร้อยละ 3 ต่อปี และห้ามจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ยืมที่มีธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝาก
ธนาคารได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ภาวะสภาพคล่องของระบบการเงินในปัจจุบันมีความผันผวนค่อนข้างมาก และอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง เพื่ออำนวยให้บริษัทเงินทุนสามารถระดมเงินจากประชาชนได้คล่องตัวและไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้ยืมจากตลาดเงินซึ่งมีต้นทุนสูงมากจนเกินไป ธนาคารด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงผ่อนผันเป็นการชั่วคราวให้เงินกู้ยืมหรือได้รับจากประชาชนที่มีกำหนดเวลาชำระคืนตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป จ่ายดอกเบี้ยได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5 ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะ 3 เดือน บวกร้อยละ 3 ต่อปี ส่วนเงินกู้ยืมที่มีกำหนดเวลาชำระคืนไม่ถึง 7 วัน และที่ไถ่ถอนก่อนครบกำหนดให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี จนกว่าภาวะผันผวนในตลาดเงินของประเทศจะคลี่คลายลง
พร้อมนี้ได้แนบประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 3) ซึ่งได้นำลงในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 114 ตอนพิเศษ 91ง ลง(ฉบับที่ 3) ซึ่งได้นำลงในราชกิจจ
ขอแสดงความนับถือ
(นางธัญญา ศิริเวทิน)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ
ผู้ว่าการแทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 3)
ฝ่ายกำกับสถาบันการเงิน
โทร. 2835856, 2835832, 2800631
------------------------------------------------------------------------
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้
(ฉบับที่ 3)
---------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30(1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (2) และ (3) ของข้อ 2 แห่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2540 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่บริษัทเงินทุนอาจจ่ายหรืออาจเรียกได้ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 18 กันยายน 2540 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
(2) เงินกู้ยืมหรือได้รับจากประชาชนที่มีกำหนดเวลาชำระคืนไม่ถึง 7 วัน และที่บริษัทเงินทุนยินยอมชำระคืนก่อนครบกำหนดเวลาไม่ถึง 7 วัน จ่ายดอกเบี้ยหรือส่วนลดได้ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี
(3) เงินกู้ยืมหรือได้รับจากประชาชนที่มีกำหนดเวลาชำระคืนตั้งแต่ 7 วัน แต่ไม่ถึง 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยหรือส่วนลดได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ธนาคารใหญ่จ่ายสำหรับเงินฝากระยะเวลา 3 เดือน ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศในสัปดาห์ก่อนหน้า บวกด้วยอัตราร้อยละ 3 ต่อปี”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2540
(นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย