(ก) สัญญา Commodity Futures และ Commodity Forward ให้ลงฐานะ Long หรือฐานะ Short โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
(ข) สัญญา Commodity Swaps ที่ขาหนึ่งเป็นราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price) และอีกขาเป็นราคาสินค้าลอยตัว (Floating Rate Price) ให้ลงฐานะในตาราง ดังนี้
* ในกรณีที่ ธพ. เป็นผู้จ่ายกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่า
ตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price Payer) และเป็นผู้รับ
กระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าลอยตัว
(Floating Rate Price Receiver) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Long โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional
Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็น
สกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
* ส่วนกรณีที่ ธพ. เป็นผู้รับกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่า
ตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาคงที่ (Fixed Rate Price Receiver) และเป็นผู้จ่ายกระแส
เงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยจากราคาลอยตัว (Floating Rate
Price Payer) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Short โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วย
วัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้
อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
(ค) สัญญา Commodity Options ที่ใช้วิธีการคำนวณแบบ Delta
Plus ให้ลงฐานะ Long และ Short ตามมูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐาน
ของสินค้านั้นคูณด้วยค่าเดลต้า คูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาท
2.2 ฐานะสุทธิ (คอลัมน์ C) หมายถึง ฐานะ Long ลบ ด้วยฐานะ Short ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท
2.3 ฐานะรวม (คอลัมน์ D) หมายถึง ฐานะ Long บวกด้วยฐานะ Short ของสินค้า
โภคภัณฑ์แต่ละประเภท
3. การคำนวณเงินกองทุน
3.1. เงินกองทุน (คอลัมน์ E) หมายถึงเงินกองทุนรวมของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท โดย สง. สามารถคำนวณเงินกองทุนของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท ได้จากสูตร
เงินกองทุน = ร้อยละ 15 ของฐานะสุทธิ + ร้อยละ 3 ของฐานะรวม
3.2. รวมเงินกองทุน หมายถึงผลรวมของเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าทุกประเภท ซึ่งเป็นผลรวมของความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามที่คำนวณได้ตามข้อ 3.1 ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท
4. ข้อกำหนดอื่นๆ
4.1 สำหรับราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ใช้ในการคำนวณฐานะนั้น ให้ สง. ใช้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีการเผยแพร่อย่างเป็นมาตรฐานต่อสาธารณะ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในกรณีที่เป็นวันทำการสุดท้ายของเดือนให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศทางเวบไซต์ (Web-Site) โดยให้ ธพ. คำนวณอัตรากลาง (Mid-rate) ระหว่างอัตราซื้อถัวเฉลี่ยทางโทรเลข (T/T) กับอัตราขายถัวเฉลี่ย ทั้งนี้ ธพ. ต้องใช้ราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจากแหล่งข้อมูลเดิมอย่างสม่ำเสมอ
4.2 สง. จะต้องจัดเก็บตารางประกอบ (ฐานะและเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละชนิด) และเอกสารประกอบการจัดทำตาราง เพื่อให้ผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบด้วย
ตารางที่ 6 ตารางสรุปเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามวิธีมาตรฐาน
แบบ Maturity Ladder
ตารางนี้เป็นตารางสรุปการคำนวณเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามวิธีมาตรฐาน แบบ Maturity Ladder สำหรับฐานะที่ ธพ. ถือครองอยู่ในบัญชีเพื่อการค้า โดยมีหลักเกณฑ์ในการแสดงรายการ ดังนี้
1. ประเภทของสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะต้องแสดงรายการ
ให้รายงานฐานะในบัญชีเพื่อการค้าที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และเงินกองทุนที่ต้องดำรงเพื่อรองรับความเสี่ยงดังกล่าวแยกตามประเภทของสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนี้
* สินค้าเกษตร ได้แก่สินค้าเกษตรที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ประกาศให้มีการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของประเทศไทย หรือสินค้าที่มีการซื้อขายในตลาด Commodity Futures ของต่างประเทศ ได้แก่ ถั่วเหลือง กาแฟ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม
* พลังงาน ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
* โลหะมีค่า ได้แก่ เงิน
* โลหะอื่น ๆ ได้แก่ ดีบุก ทองแดง ตะกั่ว อลูมิเนียม สังกะสี
* สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ ได้แก่ สินค้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดเพิ่มเติมต่อไป
2. การแสดงรายการฐานะ Long และฐานะ Short ในตาราง
ฐานะ Long และฐานะ Short ที่แสดงในตารางนี้ (คอลัมน์ (A) -- (N)) เป็นผลรวมของฐานะ Long และฐานะ Short ของสินค้าโภคภัณฑ์ที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ในแต่ละช่วงเวลา โดย ธพ. จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
2.1. ให้ ธพ. จัดทำตาราง Maturity Ladder สำหรับสินค้าแต่ละชนิด ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาในลักษณะเดียวกันและสามารถใช้ทดแทนกันได้ ซึ่งมีค่าสหสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้านั้นและสินค้าที่ใช้ทดแทนไม่ต่ำกว่า 0.9 (โดยใช้ข้อมูลในอดีตย้อนหลังไม่น้อยกว่า 1 ปีหรือ 250 วันทำการ) สามารถจัดอยู่ตารางเดียวกันเพื่อคำนวณเงินกองทุนได้
2.2. ให้ ธพ. คำนวณฐานะทันทีและฐานะล่วงหน้าของสินค้าแต่ละชนิดโดยนำมูลค่าตามสัญญาในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้น (เช่น บาร์เรล กิโลกรัม ปอนด์) คูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
2.3.ให้ ธพ. นำฐานะ Long (ซื้อ) และฐานะ Short (ขาย) ลงรายการใน Maturity
Ladder ของสินค้าแต่ละชนิดตามช่วงเวลา (Time Band) โดยฐานะ Short ให้ใส่เครื่องหมายติดลบ
2.4. สำหรับธุรกรรมอนุพันธ์ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น Commodity Futures,
Commodity Linked Swaps Commodity Options (เฉพาะที่ใช้วิธีการคำนวณแบบ Delta Plus ตาม
หลักเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงสำหรับ Options ตามหนังสือที่ ธปท. สนส. (21) ว. 2738/2546
เรื่อง แนวนโยบายการกำกับดูแลความเสี่ยงด้านตลาดของสถาบันการเงิน และแบบรายงานที่เกี่ยวข้อง ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2546 หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม) ให้ลงรายการใน Maturity Ladder ดังนี้
2.4.1 สัญญา Commodity Futures และ Commodity Forward ให้ลงฐานะLong หรือฐานะ Short ในตาราง Maturity Ladder โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount)ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุล เงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน และลงรายการตามอายุของสัญญา (Maturity)
2.4.2 สัญญา Commodity Swaps ที่ขาหนึ่งเป็นราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price) และอีกขาเป็นราคาสินค้าลอยตัว (Floating Rate Price) ให้ลงฐานะในตาราง Maturity Ladder ตามงวดที่มีการชำระราคา โดย
* ในกรณีที่ ธพ. เป็นผู้จ่ายกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price Payer) และเป็นผู้รับกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าลอยตัว (Floating Rate Price Receiver) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Long โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
* ส่วนกรณีที่ ธพ. เป็นผู้รับกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาคงที่ (Fixed Rate Price Receiver) และเป็นผู้จ่ายกระแส เงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยจากราคาลอยตัว (Floating Rate Price Payer) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Short โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
2.4.3 สัญญา Commodity Options ที่ใช้วิธีการคำนวณแบบ Delta Plus ให้ลงฐานะ Long และ Short ตามมูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยค่าเดลต้า คูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาท
3. การคำนวณเงินกองทุน
3.1. ให้ ธพ. คำนวณเงินกองทุนสำหรับแต่ละช่วงเวลาโดยนำฐานะ Long และ Short ที่สามารถหักกลบกันได้ (Matched Position) ภายในช่วงเวลาเดียวกันคูณด้วยอัตราร้อยละ 3 ผลลัพธ์ที่ได้จะถือเป็นเงินกองทุนที่ต้องดำรงสำหรับช่วงเวลานั้นๆ
3.2. อนุญาตให้ ธพ. นำฐานะสุทธิที่เหลือจากการหักกลบกัน (Residual position) ในแต่ละช่วงเวลา (Time-band) ไปหักกลบ (Match) กับฐานะของช่วงเวลาในลำดับถัดไปได้ โดยต้องดำรงเงินกองทุนเพิ่มเติมอีกร้อยละ 0.6 สำหรับแต่ละช่วงเวลาที่นำฐานะดังกล่าว (Residual position) ไปหักกลบ ทั้งนี้ ให้ใช้วิธีการคำนวณเหมือนข้อ 3.1
3.3. เมื่อคำนวณจนถึงช่วงเวลาสุดท้าย ธพ. จะเหลือฐานะเกินดุลสุทธิหรือฐานะ ขาดดุลสุทธิ (Net Open Position) เพียงยอดเดียวสำหรับสินค้าแต่ละชนิด ให้ ธพ. ดำรงเงินกองทุน ที่อัตราร้อยละ 15 ของฐานะสุทธิดังกล่าว
3.4 เงินกองทุน (คอลัมน์ (O)) คือผลรวมของเงินกองทุนของสินค้าโภคภัณฑ์ทุกชนิดที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันที่คำนวณได้ตามข้อ 3.1 - 3.3
3.5. รวมเงินกองทุน หมายถึงผลรวมของเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าทุกประเภท ซึ่งเป็นผลรวมของความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามที่คำนวณได้ตามข้อ 3.4 ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท
4. ข้อกำหนดอื่นๆ
4.1 สำหรับราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ใช้ในการคำนวณฐานะนั้น ให้ สง. ใช้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีการเผยแพร่อย่างเป็นมาตรฐานต่อสาธารณะ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในกรณีที่เป็นวันทำการสุดท้ายของเดือนให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศทางเวบไซต์ (Web-Site) โดยให้ ธพ. คำนวณอัตรากลาง (Mid-rate) ระหว่างอัตราซื้อถัวเฉลี่ยทางโทรเลข (T/T) กับอัตราขายถัวเฉลี่ย ทั้งนี้ ธพ. ต้องใช้ราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจากแหล่งข้อมูลเดิมอย่างสม่ำเสมอ
4.2 ธพ. จะต้องจัดเก็บตารางประกอบ (ฐานะและเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละชนิด) และเอกสารประกอบการจัดทำตาราง เพื่อให้ผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบด้วย
(ข) สัญญา Commodity Swaps ที่ขาหนึ่งเป็นราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price) และอีกขาเป็นราคาสินค้าลอยตัว (Floating Rate Price) ให้ลงฐานะในตาราง ดังนี้
* ในกรณีที่ ธพ. เป็นผู้จ่ายกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่า
ตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price Payer) และเป็นผู้รับ
กระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าลอยตัว
(Floating Rate Price Receiver) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Long โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional
Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็น
สกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
* ส่วนกรณีที่ ธพ. เป็นผู้รับกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่า
ตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาคงที่ (Fixed Rate Price Receiver) และเป็นผู้จ่ายกระแส
เงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยจากราคาลอยตัว (Floating Rate
Price Payer) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Short โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วย
วัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้
อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
(ค) สัญญา Commodity Options ที่ใช้วิธีการคำนวณแบบ Delta
Plus ให้ลงฐานะ Long และ Short ตามมูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐาน
ของสินค้านั้นคูณด้วยค่าเดลต้า คูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาท
2.2 ฐานะสุทธิ (คอลัมน์ C) หมายถึง ฐานะ Long ลบ ด้วยฐานะ Short ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท
2.3 ฐานะรวม (คอลัมน์ D) หมายถึง ฐานะ Long บวกด้วยฐานะ Short ของสินค้า
โภคภัณฑ์แต่ละประเภท
3. การคำนวณเงินกองทุน
3.1. เงินกองทุน (คอลัมน์ E) หมายถึงเงินกองทุนรวมของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท โดย สง. สามารถคำนวณเงินกองทุนของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท ได้จากสูตร
เงินกองทุน = ร้อยละ 15 ของฐานะสุทธิ + ร้อยละ 3 ของฐานะรวม
3.2. รวมเงินกองทุน หมายถึงผลรวมของเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าทุกประเภท ซึ่งเป็นผลรวมของความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามที่คำนวณได้ตามข้อ 3.1 ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท
4. ข้อกำหนดอื่นๆ
4.1 สำหรับราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ใช้ในการคำนวณฐานะนั้น ให้ สง. ใช้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีการเผยแพร่อย่างเป็นมาตรฐานต่อสาธารณะ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในกรณีที่เป็นวันทำการสุดท้ายของเดือนให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศทางเวบไซต์ (Web-Site) โดยให้ ธพ. คำนวณอัตรากลาง (Mid-rate) ระหว่างอัตราซื้อถัวเฉลี่ยทางโทรเลข (T/T) กับอัตราขายถัวเฉลี่ย ทั้งนี้ ธพ. ต้องใช้ราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจากแหล่งข้อมูลเดิมอย่างสม่ำเสมอ
4.2 สง. จะต้องจัดเก็บตารางประกอบ (ฐานะและเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละชนิด) และเอกสารประกอบการจัดทำตาราง เพื่อให้ผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบด้วย
ตารางที่ 6 ตารางสรุปเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามวิธีมาตรฐาน
แบบ Maturity Ladder
ตารางนี้เป็นตารางสรุปการคำนวณเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามวิธีมาตรฐาน แบบ Maturity Ladder สำหรับฐานะที่ ธพ. ถือครองอยู่ในบัญชีเพื่อการค้า โดยมีหลักเกณฑ์ในการแสดงรายการ ดังนี้
1. ประเภทของสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะต้องแสดงรายการ
ให้รายงานฐานะในบัญชีเพื่อการค้าที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และเงินกองทุนที่ต้องดำรงเพื่อรองรับความเสี่ยงดังกล่าวแยกตามประเภทของสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนี้
* สินค้าเกษตร ได้แก่สินค้าเกษตรที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ประกาศให้มีการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของประเทศไทย หรือสินค้าที่มีการซื้อขายในตลาด Commodity Futures ของต่างประเทศ ได้แก่ ถั่วเหลือง กาแฟ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม
* พลังงาน ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
* โลหะมีค่า ได้แก่ เงิน
* โลหะอื่น ๆ ได้แก่ ดีบุก ทองแดง ตะกั่ว อลูมิเนียม สังกะสี
* สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ ได้แก่ สินค้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดเพิ่มเติมต่อไป
2. การแสดงรายการฐานะ Long และฐานะ Short ในตาราง
ฐานะ Long และฐานะ Short ที่แสดงในตารางนี้ (คอลัมน์ (A) -- (N)) เป็นผลรวมของฐานะ Long และฐานะ Short ของสินค้าโภคภัณฑ์ที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ในแต่ละช่วงเวลา โดย ธพ. จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
2.1. ให้ ธพ. จัดทำตาราง Maturity Ladder สำหรับสินค้าแต่ละชนิด ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาในลักษณะเดียวกันและสามารถใช้ทดแทนกันได้ ซึ่งมีค่าสหสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้านั้นและสินค้าที่ใช้ทดแทนไม่ต่ำกว่า 0.9 (โดยใช้ข้อมูลในอดีตย้อนหลังไม่น้อยกว่า 1 ปีหรือ 250 วันทำการ) สามารถจัดอยู่ตารางเดียวกันเพื่อคำนวณเงินกองทุนได้
2.2. ให้ ธพ. คำนวณฐานะทันทีและฐานะล่วงหน้าของสินค้าแต่ละชนิดโดยนำมูลค่าตามสัญญาในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้น (เช่น บาร์เรล กิโลกรัม ปอนด์) คูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
2.3.ให้ ธพ. นำฐานะ Long (ซื้อ) และฐานะ Short (ขาย) ลงรายการใน Maturity
Ladder ของสินค้าแต่ละชนิดตามช่วงเวลา (Time Band) โดยฐานะ Short ให้ใส่เครื่องหมายติดลบ
2.4. สำหรับธุรกรรมอนุพันธ์ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น Commodity Futures,
Commodity Linked Swaps Commodity Options (เฉพาะที่ใช้วิธีการคำนวณแบบ Delta Plus ตาม
หลักเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงสำหรับ Options ตามหนังสือที่ ธปท. สนส. (21) ว. 2738/2546
เรื่อง แนวนโยบายการกำกับดูแลความเสี่ยงด้านตลาดของสถาบันการเงิน และแบบรายงานที่เกี่ยวข้อง ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2546 หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม) ให้ลงรายการใน Maturity Ladder ดังนี้
2.4.1 สัญญา Commodity Futures และ Commodity Forward ให้ลงฐานะLong หรือฐานะ Short ในตาราง Maturity Ladder โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount)ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุล เงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน และลงรายการตามอายุของสัญญา (Maturity)
2.4.2 สัญญา Commodity Swaps ที่ขาหนึ่งเป็นราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price) และอีกขาเป็นราคาสินค้าลอยตัว (Floating Rate Price) ให้ลงฐานะในตาราง Maturity Ladder ตามงวดที่มีการชำระราคา โดย
* ในกรณีที่ ธพ. เป็นผู้จ่ายกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าคงที่ (Fixed Rate Price Payer) และเป็นผู้รับกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาสินค้าลอยตัว (Floating Rate Price Receiver) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Long โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
* ส่วนกรณีที่ ธพ. เป็นผู้รับกระแสเงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยราคาคงที่ (Fixed Rate Price Receiver) และเป็นผู้จ่ายกระแส เงินสดที่คำนวณจากมูลค่าตามสัญญา (Notional amount) คูณด้วยจากราคาลอยตัว (Floating Rate Price Payer) ให้ลงรายการเป็นฐานะ Short โดยใช้มูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
2.4.3 สัญญา Commodity Options ที่ใช้วิธีการคำนวณแบบ Delta Plus ให้ลงฐานะ Long และ Short ตามมูลค่าตามสัญญา (Notional Amount) ในหน่วยวัดมาตรฐานของสินค้านั้นคูณด้วยค่าเดลต้า คูณด้วยราคาตลาดของสินค้านั้น แล้วแปลงค่าให้เป็นสกุลเงินบาท
3. การคำนวณเงินกองทุน
3.1. ให้ ธพ. คำนวณเงินกองทุนสำหรับแต่ละช่วงเวลาโดยนำฐานะ Long และ Short ที่สามารถหักกลบกันได้ (Matched Position) ภายในช่วงเวลาเดียวกันคูณด้วยอัตราร้อยละ 3 ผลลัพธ์ที่ได้จะถือเป็นเงินกองทุนที่ต้องดำรงสำหรับช่วงเวลานั้นๆ
3.2. อนุญาตให้ ธพ. นำฐานะสุทธิที่เหลือจากการหักกลบกัน (Residual position) ในแต่ละช่วงเวลา (Time-band) ไปหักกลบ (Match) กับฐานะของช่วงเวลาในลำดับถัดไปได้ โดยต้องดำรงเงินกองทุนเพิ่มเติมอีกร้อยละ 0.6 สำหรับแต่ละช่วงเวลาที่นำฐานะดังกล่าว (Residual position) ไปหักกลบ ทั้งนี้ ให้ใช้วิธีการคำนวณเหมือนข้อ 3.1
3.3. เมื่อคำนวณจนถึงช่วงเวลาสุดท้าย ธพ. จะเหลือฐานะเกินดุลสุทธิหรือฐานะ ขาดดุลสุทธิ (Net Open Position) เพียงยอดเดียวสำหรับสินค้าแต่ละชนิด ให้ ธพ. ดำรงเงินกองทุน ที่อัตราร้อยละ 15 ของฐานะสุทธิดังกล่าว
3.4 เงินกองทุน (คอลัมน์ (O)) คือผลรวมของเงินกองทุนของสินค้าโภคภัณฑ์ทุกชนิดที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันที่คำนวณได้ตามข้อ 3.1 - 3.3
3.5. รวมเงินกองทุน หมายถึงผลรวมของเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าทุกประเภท ซึ่งเป็นผลรวมของความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามที่คำนวณได้ตามข้อ 3.4 ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละประเภท
4. ข้อกำหนดอื่นๆ
4.1 สำหรับราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ใช้ในการคำนวณฐานะนั้น ให้ สง. ใช้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีการเผยแพร่อย่างเป็นมาตรฐานต่อสาธารณะ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในกรณีที่เป็นวันทำการสุดท้ายของเดือนให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศทางเวบไซต์ (Web-Site) โดยให้ ธพ. คำนวณอัตรากลาง (Mid-rate) ระหว่างอัตราซื้อถัวเฉลี่ยทางโทรเลข (T/T) กับอัตราขายถัวเฉลี่ย ทั้งนี้ ธพ. ต้องใช้ราคาตลาดของสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจากแหล่งข้อมูลเดิมอย่างสม่ำเสมอ
4.2 ธพ. จะต้องจัดเก็บตารางประกอบ (ฐานะและเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละชนิด) และเอกสารประกอบการจัดทำตาราง เพื่อให้ผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบด้วย