การปรับปรุงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการในภาคเศรษฐกิจสำคัญ

ข่าวกฏหมายและประกาศ Tuesday August 7, 2001 12:18 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                                                            7 สิงหาคม 2544
เรียน ผู้จัดการ
ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร
บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทุกบริษัท
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่ ธปท.สกง.(05) ว. 1724 /2544 เรื่อง การปรับปรุงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการในภาคเศรษฐกิจสำคัญ
ด้วยธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควรปรับปรุงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการในภาคเศรษฐกิจสำคัญให้เหมาะสมกับภาวะการณ์ในปัจจุบัน จึงขอแจ้งให้ทราบว่า
ข้อ 1. ตั้งแต่วันที่ในหนังสือนี้เป็นต้นไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายใหม่แต่ละรายเป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี ตามระเบียบและหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทย ดังต่อไปนี้
(1) ระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการอุตสาหกรรม พ.ศ. 2531 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(2) ระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ พ.ศ. 2531
(3) หนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.นช.(ว) 1346/2531 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่โครงการด้านเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาชนบท ลงวันที่ 15 กันยายน 2531
(4) ระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการเก็บรักษาสินค้าไว้ในคลังสินค้า พ.ศ. 2531
(5) ระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการค้าพืชผลเกษตร พ.ศ. 2531
(6) หนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.นช.(ว) 3675/2542 เรื่อง การรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการขายข้าวสารของผู้ประกอบกิจการโรงสี ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2542
(7) ระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543
(8) หนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.สกง.(05) ว. 2/2544 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินระยะยาวแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) แต่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ลงวันที่ 3 มกราคม 2544
สำหรับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามระเบียบและหนังสือเวียนที่กล่าวใน (4) (5) และ (6) ซึ่งแต่เดิมไม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายเดิมที่มีอยู่ก่อนวันที่ในหนังสือนี้ต่อไปอีกเป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ในหนังสือนี้
ข้อ 2. ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ พ.ศ. 2531 ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินในอัตราที่ลดลง จากเดิมร้อยละ 5 ต่อปี เป็นร้อยละ 3 ต่อปี และเพิ่มสัดส่วนจำนวนเงินที่รับซื้อจากเดิมอัตราร้อยละ 50 เป็นอัตราร้อยละ 60 ของจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน ทั้งนี้ ตามประกาศที่ส่งมาพร้อมนี้
จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย : 1. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2544
2. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราร้อยละในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2544
ส่วนสินเชื่อ
สายตลาดการเงิน
โทร. 0 2283 5148, 0 2283 5414
หมายเหตุ : ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจาก
การประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์
________________________
เพื่ออนุวัตตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ พ.ศ. 2531 ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ดังนี้
ข้อ 1. ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตามระเบียบดังกล่าวข้างต้นต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมประเภทมีกำหนดระยะเวลาสำหรับลูกค้าชั้นดี (MLR) ของธนาคารพาณิชย์ที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี กรณีการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR ตามประกาศของธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) โดยเฉลี่ย ลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี สำหรับจำนวนเงินที่รับซื้อ
ข้อ 2. ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 6.5 ต่อปี ตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง สำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งแห่งระเบียบดังกล่าวทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับสำหรับตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2544
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง อัตราร้อยละในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจาก
การประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์
_____________________
เพื่ออนุวัตตามข้อ 3. แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ พ.ศ. 2531 ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินตามระเบียบดังกล่าวในอัตราร้อยละ 60 ของจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2544
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ