10 มีนาคม 2543
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุนทุกบริษัท
ที่ ธปท.สนส.(11)ว. 618 /2543 เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน
ตามที่ธปท. ได้ออกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 2 มีนาคม 2543 ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่องดังกล่าวทั้ง 8 ฉบับ เพื่อรวมอยู่ในฉบับเดียวและได้แก้ไขและเพิ่มเติมข้อความจากประกาศฉบับเดิมทั้ง 8 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้เงินให้สินเชื่อ หรือเงินลงทุนในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเต็มจำนวน และรวมถึงเงินให้สินเชื่อที่นิติบุคคลดังกล่าว รับรอง รับอาวัลหรือค้ำประกัน หรือเงินให้สินเชื่อที่มีตราสารที่ออกโดยนิติบุคคลดังกล่าวเป็นประกัน รวมทั้งดอกเบี้ยค้างรับมีน้ำหนักความเสี่ยงเท่ากับ 0 ทั้งนี้ ไม่นับรวมถึงกรณีบริษัทบริหารสินทรัพย์เอกชนที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่ได้ถือหุ้นเต็มจำนวนที่ยังมีน้ำหนักความเสี่ยงเท่ากับ 100
2. ในการแปลงค่าเป็นเงินบาทในส่วนสินทรัพย์และภาระผูกพันที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นไปตามนัยหนังสือเวียนที่ธปท.งพ. (ว) 2930/2540 เรื่อง แนวทางปฏิบัติทางด้านบัญชีและการรายงานจากการปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยน ลงวันที่ 19 กันยายน 2540
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(นางธาริษา วัฒนเกส)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน
ผู้ว่าการแทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน
ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงิน
โทร. 283-6878 , 283-5878
หมายเหตุ [
] ธปท. จะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่……….เวลา…….ณ…………
[ X
] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และ
ภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน
----------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ให้ยกเลิก
(1) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536
(2) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2537
(3) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2538
(4) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 6 มีนาคม 2541
(5) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2541
(6) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2541
(7) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2542
(8) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2542
ข้อ 2. เงินกองทุนของบริษัทเงินทุน ได้แก่
(1) ทุนชำระแล้ว ซึ่งรวมทั้งส่วนล้ำมูลค่าหุ้นที่บริษัทเงินทุนได้รับ และที่บริษัทเงินทุนได้รับจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นบริษัทเงินทุนนั้น
(2) ทุนสำรองตามกฎหมาย
(3) เงินสำรองที่ได้จัดสรรจากกำไรสุทธิเมื่อสิ้นงวดการบัญชีตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น หรือตามข้อบังคับของบริษัทเงินทุน แต่ไม่รวมเงินสำรองสำหรับการลดค่าของสินทรัพย์ และเงินสำรองเพื่อการชำระหนี้
(4) กำไรสุทธิคงเหลือจากการจัดสรร
(5) เงินสำรองจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาที่ดินและอาคาร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินสำรองสำหรับสินทรัพย์จัดชั้นปกติ ซึ่งได้กันไว้ตามนัยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง สินทรัพย์ที่ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ และสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2541 หรือที่จะแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ บริษัทเงินทุนจะนับเงินสำรองสำหรับสินทรัพย์จัดชั้นปกติเข้าเป็นเงินกองทุนได้ไม่เกินร้อยละ 1.25 ของยอดสินทรัพย์เสี่ยง
(6) เงินที่บริษัทเงินทุนได้รับจากการออกตราสารตามประเภท จำนวนเงิน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินกองทุนส่วนที่ระบุใน (1) (2) (3) และ (4) ให้หักผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในทุกงวดการบัญชีออกก่อน และให้หักค่าแห่งกู๊ดวิลล์ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินกองทุนที่ระบุใน (1) (2) (3) (4) (5) และ (6) ให้หักเงินตามตราสารใน (6) ของบริษัทเงินทุนและธนาคารพาณิชย์อื่น ที่บริษัทเงินทุนนั้นถือไว้ และสินทรัพย์อื่นใด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินกองทุนที่ระบุใน (1) ถึง (4) ยกเว้นเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ชนิดสะสมเงินปันผล ให้รวมเรียกว่า เงินกองทุนชั้นที่ 1 ส่วนเงินกองทุนที่ระบุใน (5) ถึง (6) และเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ชนิดสะสมเงินปันผล ให้รวมเรียกว่า เงินกองทุนชั้นที่ 2 ทั้งนี้ เงินกองทุนชั้นที่ 2 ต้องมีจำนวนสูงสุดไม่เกินเงินกองทุนชั้นที่ 1 และการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ชนิดสะสมเงินปันผล จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ 3. ให้บริษัทเงินทุนดำรงเงินกองทุนเมื่อสิ้นวันหนึ่ง ๆ เป็นอัตราส่วนกับ สินทรัพย์และภาระผูกพัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8 โดยมีเงื่อนไขว่าเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต้องเป็น อัตราส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 ของสินทรัพย์และภาระผูกพันดังกล่าว
ข้อ 4. ในการดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันตาม ข้อ 3. ให้บริษัทเงินทุนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้
(1) นำรายการในงบการเงินทางด้านสินทรัพย์ทุกรายการ และภาระผูกพันทุกรายการ โดยใช้มูลค่าตามบัญชี ณ วันที่รายงาน มาคำนวณกับอัตราความเสี่ยง ส่วนสินทรัพย์และภาระผูกพันที่เป็นเงินตราต่างประเทศให้แปลงค่าเป็นเงินบาทก่อน โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน อ้างอิง ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะประกาศทุกเช้าวันทำการถัดไปของวันจัดทำรายงาน ทั้งนี้ให้ใช้อัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อ ถัวเฉลี่ยขั้นต่ำสุดและอัตราขายถัวเฉลี่ย สำหรับสกุลเงินซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยมิได้ประกาศอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงไว้ให้ใช้วิธีคำนวณจากอัตราไขว้ (Cross Rate)
(2) คูณสินทรัพย์แต่ละรายการด้วยอัตราความเสี่ยงตามที่กำหนดไว้ใน ข้อ 5.
(3) คูณภาระผูกพันแต่ละรายการด้วยค่าแปลงสภาพ (Credit Conversion Factor) ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 6. แล้วนำค่าที่ได้คูณกับอัตราความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภทตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5. อีกครั้งหนึ่ง
(4) รวมผลคูณของสินทรัพย์ตาม (2) และภาระผูกพันตาม (3) ทุกรายการและนำเงินกองทุนมาคำนวณอัตราส่วนกับผลลัพธ์ที่ได้ โดยเงินกองทุนต้องเป็นอัตราส่วนกับ ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่ต่ำกว่าที่กำหนดในข้อ 3.
ข้อ 5. อัตราความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภท
ก. อัตราความเสี่ยงร้อยละ 0
(1) เงินสดที่เป็นเงินบาทและเงินตราต่างประเทศ
(2) เงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(3) เงินลงทุนในหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะขายคืนตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการซื้อขายพันธบัตรโดยมีสัญญาว่าจะซื้อคืนหรือขายคืน รวมดอกเบี้ยค้างรับ
(4) เงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลไทยหรือหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หรือหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยรวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารข้างต้นจำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(5) เงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้ หรือที่คณะรัฐมนตรีมีมติจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อชำระหนี้ให้
(6) เงินให้กู้ยืมหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางของประเทศตามที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่ รัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวค้ำประกันโดยปราศจากเงื่อนไขและเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้ หรือที่มีหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวจำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(7) เงินให้กู้ยืมหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางของประเทศนอกจากที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีรัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวค้ำประกันโดยปราศจากเงื่อนไขและเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้ ทั้งนี้ ต้องเป็นสกุลเงินของประเทศนั้น และไม่เกินกว่าหนี้สินที่บริษัทเงินทุนมีอยู่ในเงินสกุลนั้น
(8) เงินให้กู้ยืมหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินหรือโดยบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเต็มจำนวน รวมดอกเบี้ยค้างรับหรือ เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีนิติบุคคลดังกล่าว รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลดังกล่าวจำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(9) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยบริษัทเงินทุนนั้นจำนำเป็นประกัน เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
การตีราคาตั๋วสัญญาใช้เงินและบัตรเงินฝากประเภทระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินมูลค่าของตราสารนั้น
การตีราคาบัตรเงินฝากประเภทไม่ระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้
(10) ยอดเหลื่อมบัญชีระหว่างสำนักงานของบริษัทเงินทุนนั้น
(11) สินทรัพย์เฉพาะส่วนซึ่งเท่ากับเงินสำรองสำหรับสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ และรายได้รอการตัดบัญชี
(12) ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี
(13) ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
(14) สิทธิเรียกร้องตามเอกสารการกู้ยืมเงินหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่บริษัท เงินทุนอื่นหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออก ซึ่งรับโอนจากประชาชน ทั้งนี้เฉพาะตามโครงการและจำนวนเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ
(15) ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) และบัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามโครงการรับแลกเปลี่ยนตั๋วบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ ในส่วนที่เป็นต้นเงินตามหน้าตั๋วและดอกเบี้ยค้างรับ
(16) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) หรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามโครงการรับแลกเปลี่ยนตั๋ว 56 บริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนิน กิจการ จำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
ข. อัตราความเสี่ยงร้อยละ 20
(1) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีธนาคารพาณิชย์รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์จำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(2) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้ หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีสถาบันดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยสถาบันดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(3) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีธนาคารดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(4) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรหรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่สถาบันดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มี หลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยสถาบันดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(5) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในกลุ่มประเทศตามที่กำหนดใน ภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีธนาคารพาณิชย์ ดังกล่าว รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(6) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การของรัฐในกลุ่มประเทศตามที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีสถาบันดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยสถาบันดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(7) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การระหว่างประเทศ ตามที่กำหนดในภาคผนวก 2 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีองค์การดังกล่าว รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(8) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือไม่เกิน 1 ปี หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวม ดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือไม่เกิน 1 ปี และธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์ หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ ดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(9) เงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดสรรเงินงบประมาณเพื่อชำระหนี้ แต่สำนักงบประมาณมิได้จัดสรรเงินชำระหนี้ให้จนล่วงพ้นระยะเวลาที่ถึงกำหนดชำระเกินกว่า 2 ปีขึ้นไป
(10) เงินให้กู้ยืมเพื่อการส่งออกตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิต หรือเงินให้กู้ยืมเพื่อการส่งออก ตามเอกสารประเภทอื่น ที่ธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศรับผิดชอบในการชำระค่าสินค้าแทนผู้ซื้อ แต่ในกรณีผู้ออกเล็ตเตอร์ออฟเครดิตหรือธนาคารพาณิชย์ที่รับผิดชอบในการชำระค่าสินค้า เป็นธนาคารจดทะเบียนนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 1 จะต้องมีระยะเวลาคงเหลือของเล็ตเตอร์ออฟเครดิต หรือระยะเวลาที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องชำระค่าสินค้าไม่เกิน 1 ปี
อัตราความเสี่ยงร้อยละ 50
(1) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นรวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีองค์การดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีตราสารดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(2) เงินให้กู้ยืมแก่บุคคลธรรมดาเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีที่ดิน และหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นจำนองเป็นประกันลำดับหนึ่งกับบริษัทเงินทุน ทั้งนี้ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังกล่าวต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่ายอดเงินให้กู้ยืมคงค้างรวมทั้งดอกเบี้ยค้างรับ
(3) ภาระผูกพันที่เป็นสัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน หรืออัตราดอกเบี้ยซึ่งได้คูณด้วยค่าแปลงสภาพ (Credit Conversion Factor) ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 6. แล้ว เว้นแต่ คู่สัญญาจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีอัตราความเสี่ยงต่ำกว่าร้อยละ 50
อัตราความเสี่ยงร้อยละ 100
(1) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ภาคเอกชนรวมดอกเบี้ยค้างรับ
(2) ลูกหนี้เช่าซื้อที่ได้หักรายได้รอตัดบัญชีแล้ว
(3) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้น หุ้นกู้ หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือเกิน 1 ปี หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวม ดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือเกิน 1 ปี และมีธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือมีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวจำนำเป็นประกัน
(4) เงินให้กู้ยืม หรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่ รัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวค้ำประกัน
(5) ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ สินทรัพย์ประจำอื่น ๆ และทรัพย์สินรอการขาย
(6) สินทรัพย์และภาระผูกพันอื่น ๆ ที่มิได้ระบุอัตราความเสี่ยงไว้ในข้อ 5. นี้
การตีราคาหลักประกันในข้อนี้ ถ้ามิได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะให้ถือปฏิบัติดังนี้
(ก) กรณีหุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ประเภทระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้
(ข) กรณีหุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ประเภทไม่ระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินร้อยละ 60 ของจำนวนเงินที่ตราไว้
(ค) กรณีหุ้นหรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ง) กรณีหุ้นที่ชำระเต็มมูลค่าแล้วและไม่ได้เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้
ข้อ 6. ค่าแปลงสภาพ (Credit Conversion Factor) ของภาระผูกพันแต่ละประเภท
ก. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 100
(1) การรับรอง รับอาวัล และสอดเข้าแก้หน้าตั๋วเงิน
(2) การค้ำประกันการขาย ขายลด หรือขายช่วงลดตั๋วเงิน
(3) การสลักหลังตั๋วเงินแบบผู้รับสลักหลังมีสิทธิไล่เบี้ย (with recourse)
(4) การค้ำประกันการกู้ยืม
(5) สัญญาการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งบริษัทเงินทุนต้องปฏิบัติตามโดยปราศจากเงื่อนไข
(6) การค้ำประกัน การรับประกัน หรือการก่อภาระผูกพันในรูปแบบใด ๆ ของบริษัทเงินทุน อันเนื่องมาจากการขายสินทรัพย์
ข. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 50
(1) ภาระผูกพันซึ่งขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของลูกค้า เช่น ค้ำประกันการรับเหมาก่อสร้าง ค้ำประกันการยื่นซองประกวดราคา เป็นต้น
(2) การประกันการจำหน่ายตราสารหรือหลักทรัพย์
ค. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 20
ภาระผูกพันเพื่อการนำสินค้าเข้ามาตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิต ทั้งที่มีเอกสารประกอบและยังไม่มีเอกสารประกอบ
ง. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 0
(1) ตั๋วเงินเพื่อเรียกเก็บ
(2) วงเงินให้กู้ยืมที่ลูกค้ายังมิได้ใช้
(3) ค้ำประกันการออกของ (Shipping Guarantee)
(4) ภาระผูกพันที่บริษัทเงินทุนสามารถบอกเลิกเมื่อใดก็ได้
(5) ภาระผูกพันอื่น ๆ ที่มิได้ระบุค่าแปลงสภาพไว้ในข้อ 6 นี้
จ. ค่าแปลงสภาพสำหรับสัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย (ร้อยละ)
อายุสัญญาที่เหลือ สัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน สัญญาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
ไม่เกิน 14 วัน 0 0
เกิน 14 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี 2.0 0.5
เกิน 1 ปีขึ้นไป 5.0 1.0
สัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ได้แก่สัญญาดังต่อไปนี้
Cross currency interest rate swaps
Forward foreign exchange contracts
Currency option purchases
สัญญาอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน
สัญญาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ได้แก่สัญญาดังต่อไปนี้
Single currency interest rate swaps
Basis swaps
Forward rate agreements
Interest rate option purchases
สัญญาอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน
ในกรณีที่ลูกค้ารายเดียวกันทำสัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนหรือสัญญาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยทั้งทางด้านซื้อและด้านขาย ให้คูณจำนวนเงินด้านซื้อและด้านขายด้วยค่าแปลงสภาพก่อน และนำค่าที่ได้มาหักกลบกัน แล้วจึงนำจำนวนสุทธิไปคูณกับอัตราความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภทตามที่กำหนดในข้อ 5.
ข้อ 7. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2543
(ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ภาคผนวก 1
กลุ่มประเทศ Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) และประเทศที่มีฐานะการเงินเทียบเท่า
ออสเตรเลีย ลักเซมเบิร์ก
ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์
เบลเยี่ยม นิวซีแลนด์
แคนาดา นอร์เวย์
เดนมาร์ก โปรตุเกส
เยอรมันนี ซาอุดีอาระเบีย
ฟินแลนด์ สเปน
ฝรั่งเศส สวีเดน
กรีซ สวิตเซอร์แลนด์
ไอซ์แลนด์ ตุรกี
ไอร์แลนด์ อังกฤษ
อิตาลี สหรัฐอเมริกา
ญี่ปุ่น
ภาคผนวก 2
องค์การระหว่างประเทศ
European Investment Bank (EIB)
European Bank for Reconstruction and Development (EBRD)
International Bank for Reconstruction and Development (IBRD)
including International Finance Corporation (IFC)
Inter-American Development Bank (IADB)
African Development Bank (AfDB)
Asian Development Bank (AsDB)
Caribbean Development Bank (CDB)
Nordic Investment Bank (NIB)
สนสป31-กส22203-25430314ด
-ยก-
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทเงินทุนทุกบริษัท
ที่ ธปท.สนส.(11)ว. 618 /2543 เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน
ตามที่ธปท. ได้ออกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 2 มีนาคม 2543 ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่องดังกล่าวทั้ง 8 ฉบับ เพื่อรวมอยู่ในฉบับเดียวและได้แก้ไขและเพิ่มเติมข้อความจากประกาศฉบับเดิมทั้ง 8 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้เงินให้สินเชื่อ หรือเงินลงทุนในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเต็มจำนวน และรวมถึงเงินให้สินเชื่อที่นิติบุคคลดังกล่าว รับรอง รับอาวัลหรือค้ำประกัน หรือเงินให้สินเชื่อที่มีตราสารที่ออกโดยนิติบุคคลดังกล่าวเป็นประกัน รวมทั้งดอกเบี้ยค้างรับมีน้ำหนักความเสี่ยงเท่ากับ 0 ทั้งนี้ ไม่นับรวมถึงกรณีบริษัทบริหารสินทรัพย์เอกชนที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่ได้ถือหุ้นเต็มจำนวนที่ยังมีน้ำหนักความเสี่ยงเท่ากับ 100
2. ในการแปลงค่าเป็นเงินบาทในส่วนสินทรัพย์และภาระผูกพันที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นไปตามนัยหนังสือเวียนที่ธปท.งพ. (ว) 2930/2540 เรื่อง แนวทางปฏิบัติทางด้านบัญชีและการรายงานจากการปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยน ลงวันที่ 19 กันยายน 2540
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(นางธาริษา วัฒนเกส)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน
ผู้ว่าการแทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน
ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงิน
โทร. 283-6878 , 283-5878
หมายเหตุ [
] ธปท. จะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่……….เวลา…….ณ…………
[ X
] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และ
ภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน
----------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ให้ยกเลิก
(1) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536
(2) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2537
(3) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2538
(4) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 6 มีนาคม 2541
(5) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2541
(6) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2541
(7) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2542
(8) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การดำรงเงินกองทุนเป็น อัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันของบริษัทเงินทุน (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2542
ข้อ 2. เงินกองทุนของบริษัทเงินทุน ได้แก่
(1) ทุนชำระแล้ว ซึ่งรวมทั้งส่วนล้ำมูลค่าหุ้นที่บริษัทเงินทุนได้รับ และที่บริษัทเงินทุนได้รับจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นบริษัทเงินทุนนั้น
(2) ทุนสำรองตามกฎหมาย
(3) เงินสำรองที่ได้จัดสรรจากกำไรสุทธิเมื่อสิ้นงวดการบัญชีตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น หรือตามข้อบังคับของบริษัทเงินทุน แต่ไม่รวมเงินสำรองสำหรับการลดค่าของสินทรัพย์ และเงินสำรองเพื่อการชำระหนี้
(4) กำไรสุทธิคงเหลือจากการจัดสรร
(5) เงินสำรองจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาที่ดินและอาคาร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินสำรองสำหรับสินทรัพย์จัดชั้นปกติ ซึ่งได้กันไว้ตามนัยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง สินทรัพย์ที่ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ และสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2541 หรือที่จะแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ บริษัทเงินทุนจะนับเงินสำรองสำหรับสินทรัพย์จัดชั้นปกติเข้าเป็นเงินกองทุนได้ไม่เกินร้อยละ 1.25 ของยอดสินทรัพย์เสี่ยง
(6) เงินที่บริษัทเงินทุนได้รับจากการออกตราสารตามประเภท จำนวนเงิน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินกองทุนส่วนที่ระบุใน (1) (2) (3) และ (4) ให้หักผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในทุกงวดการบัญชีออกก่อน และให้หักค่าแห่งกู๊ดวิลล์ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินกองทุนที่ระบุใน (1) (2) (3) (4) (5) และ (6) ให้หักเงินตามตราสารใน (6) ของบริษัทเงินทุนและธนาคารพาณิชย์อื่น ที่บริษัทเงินทุนนั้นถือไว้ และสินทรัพย์อื่นใด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เงินกองทุนที่ระบุใน (1) ถึง (4) ยกเว้นเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ชนิดสะสมเงินปันผล ให้รวมเรียกว่า เงินกองทุนชั้นที่ 1 ส่วนเงินกองทุนที่ระบุใน (5) ถึง (6) และเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ชนิดสะสมเงินปันผล ให้รวมเรียกว่า เงินกองทุนชั้นที่ 2 ทั้งนี้ เงินกองทุนชั้นที่ 2 ต้องมีจำนวนสูงสุดไม่เกินเงินกองทุนชั้นที่ 1 และการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ชนิดสะสมเงินปันผล จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ 3. ให้บริษัทเงินทุนดำรงเงินกองทุนเมื่อสิ้นวันหนึ่ง ๆ เป็นอัตราส่วนกับ สินทรัพย์และภาระผูกพัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8 โดยมีเงื่อนไขว่าเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต้องเป็น อัตราส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 ของสินทรัพย์และภาระผูกพันดังกล่าว
ข้อ 4. ในการดำรงเงินกองทุนเป็นอัตราส่วนกับสินทรัพย์และภาระผูกพันตาม ข้อ 3. ให้บริษัทเงินทุนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้
(1) นำรายการในงบการเงินทางด้านสินทรัพย์ทุกรายการ และภาระผูกพันทุกรายการ โดยใช้มูลค่าตามบัญชี ณ วันที่รายงาน มาคำนวณกับอัตราความเสี่ยง ส่วนสินทรัพย์และภาระผูกพันที่เป็นเงินตราต่างประเทศให้แปลงค่าเป็นเงินบาทก่อน โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน อ้างอิง ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะประกาศทุกเช้าวันทำการถัดไปของวันจัดทำรายงาน ทั้งนี้ให้ใช้อัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อ ถัวเฉลี่ยขั้นต่ำสุดและอัตราขายถัวเฉลี่ย สำหรับสกุลเงินซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยมิได้ประกาศอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงไว้ให้ใช้วิธีคำนวณจากอัตราไขว้ (Cross Rate)
(2) คูณสินทรัพย์แต่ละรายการด้วยอัตราความเสี่ยงตามที่กำหนดไว้ใน ข้อ 5.
(3) คูณภาระผูกพันแต่ละรายการด้วยค่าแปลงสภาพ (Credit Conversion Factor) ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 6. แล้วนำค่าที่ได้คูณกับอัตราความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภทตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5. อีกครั้งหนึ่ง
(4) รวมผลคูณของสินทรัพย์ตาม (2) และภาระผูกพันตาม (3) ทุกรายการและนำเงินกองทุนมาคำนวณอัตราส่วนกับผลลัพธ์ที่ได้ โดยเงินกองทุนต้องเป็นอัตราส่วนกับ ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่ต่ำกว่าที่กำหนดในข้อ 3.
ข้อ 5. อัตราความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภท
ก. อัตราความเสี่ยงร้อยละ 0
(1) เงินสดที่เป็นเงินบาทและเงินตราต่างประเทศ
(2) เงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(3) เงินลงทุนในหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะขายคืนตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการซื้อขายพันธบัตรโดยมีสัญญาว่าจะซื้อคืนหรือขายคืน รวมดอกเบี้ยค้างรับ
(4) เงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลไทยหรือหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หรือหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยรวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารข้างต้นจำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(5) เงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้ หรือที่คณะรัฐมนตรีมีมติจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อชำระหนี้ให้
(6) เงินให้กู้ยืมหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางของประเทศตามที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่ รัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวค้ำประกันโดยปราศจากเงื่อนไขและเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้ หรือที่มีหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวจำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(7) เงินให้กู้ยืมหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางของประเทศนอกจากที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีรัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวค้ำประกันโดยปราศจากเงื่อนไขและเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้ ทั้งนี้ ต้องเป็นสกุลเงินของประเทศนั้น และไม่เกินกว่าหนี้สินที่บริษัทเงินทุนมีอยู่ในเงินสกุลนั้น
(8) เงินให้กู้ยืมหรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินหรือโดยบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเต็มจำนวน รวมดอกเบี้ยค้างรับหรือ เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีนิติบุคคลดังกล่าว รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลดังกล่าวจำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(9) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยบริษัทเงินทุนนั้นจำนำเป็นประกัน เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
การตีราคาตั๋วสัญญาใช้เงินและบัตรเงินฝากประเภทระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินมูลค่าของตราสารนั้น
การตีราคาบัตรเงินฝากประเภทไม่ระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้
(10) ยอดเหลื่อมบัญชีระหว่างสำนักงานของบริษัทเงินทุนนั้น
(11) สินทรัพย์เฉพาะส่วนซึ่งเท่ากับเงินสำรองสำหรับสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ และรายได้รอการตัดบัญชี
(12) ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี
(13) ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
(14) สิทธิเรียกร้องตามเอกสารการกู้ยืมเงินหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่บริษัท เงินทุนอื่นหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออก ซึ่งรับโอนจากประชาชน ทั้งนี้เฉพาะตามโครงการและจำนวนเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ
(15) ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) และบัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามโครงการรับแลกเปลี่ยนตั๋วบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ ในส่วนที่เป็นต้นเงินตามหน้าตั๋วและดอกเบี้ยค้างรับ
(16) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) หรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามโครงการรับแลกเปลี่ยนตั๋ว 56 บริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนิน กิจการ จำนำเป็นประกันเฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
ข. อัตราความเสี่ยงร้อยละ 20
(1) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีธนาคารพาณิชย์รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์จำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(2) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้ หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยบริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีสถาบันดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยสถาบันดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(3) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีธนาคารดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(4) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรหรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่สถาบันดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มี หลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยสถาบันดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(5) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในกลุ่มประเทศตามที่กำหนดใน ภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีธนาคารพาณิชย์ ดังกล่าว รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(6) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การของรัฐในกลุ่มประเทศตามที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีสถาบันดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยสถาบันดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(7) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การระหว่างประเทศ ตามที่กำหนดในภาคผนวก 2 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีองค์การดังกล่าว รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(8) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือไม่เกิน 1 ปี หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวม ดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือไม่เกิน 1 ปี และธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีหลักทรัพย์ หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ ดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(9) เงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดสรรเงินงบประมาณเพื่อชำระหนี้ แต่สำนักงบประมาณมิได้จัดสรรเงินชำระหนี้ให้จนล่วงพ้นระยะเวลาที่ถึงกำหนดชำระเกินกว่า 2 ปีขึ้นไป
(10) เงินให้กู้ยืมเพื่อการส่งออกตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิต หรือเงินให้กู้ยืมเพื่อการส่งออก ตามเอกสารประเภทอื่น ที่ธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศรับผิดชอบในการชำระค่าสินค้าแทนผู้ซื้อ แต่ในกรณีผู้ออกเล็ตเตอร์ออฟเครดิตหรือธนาคารพาณิชย์ที่รับผิดชอบในการชำระค่าสินค้า เป็นธนาคารจดทะเบียนนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 1 จะต้องมีระยะเวลาคงเหลือของเล็ตเตอร์ออฟเครดิต หรือระยะเวลาที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องชำระค่าสินค้าไม่เกิน 1 ปี
อัตราความเสี่ยงร้อยละ 50
(1) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นรวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับที่มีองค์การดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือที่มีตราสารดังกล่าวจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่คุ้มหนี้
(2) เงินให้กู้ยืมแก่บุคคลธรรมดาเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีที่ดิน และหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นจำนองเป็นประกันลำดับหนึ่งกับบริษัทเงินทุน ทั้งนี้ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังกล่าวต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่ายอดเงินให้กู้ยืมคงค้างรวมทั้งดอกเบี้ยค้างรับ
(3) ภาระผูกพันที่เป็นสัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน หรืออัตราดอกเบี้ยซึ่งได้คูณด้วยค่าแปลงสภาพ (Credit Conversion Factor) ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 6. แล้ว เว้นแต่ คู่สัญญาจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีอัตราความเสี่ยงต่ำกว่าร้อยละ 50
อัตราความเสี่ยงร้อยละ 100
(1) เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ภาคเอกชนรวมดอกเบี้ยค้างรับ
(2) ลูกหนี้เช่าซื้อที่ได้หักรายได้รอตัดบัญชีแล้ว
(3) เงินฝาก เงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้ หรือเงินลงทุนในหุ้น หุ้นกู้ หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือเกิน 1 ปี หรือเงินให้กู้ยืมหรือลูกหนี้รวม ดอกเบี้ยค้างรับซึ่งมีระยะเวลาคงเหลือเกิน 1 ปี และมีธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกัน หรือมีหลักทรัพย์หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวจำนำเป็นประกัน
(4) เงินให้กู้ยืม หรือเงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาลหรือธนาคารกลางนอกกลุ่มประเทศที่กำหนดในภาคผนวก 1 รวมดอกเบี้ยค้างรับ หรือเงินให้กู้ยืมรวมดอกเบี้ยค้างรับที่ รัฐบาลหรือธนาคารกลางดังกล่าวค้ำประกัน
(5) ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ สินทรัพย์ประจำอื่น ๆ และทรัพย์สินรอการขาย
(6) สินทรัพย์และภาระผูกพันอื่น ๆ ที่มิได้ระบุอัตราความเสี่ยงไว้ในข้อ 5. นี้
การตีราคาหลักประกันในข้อนี้ ถ้ามิได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะให้ถือปฏิบัติดังนี้
(ก) กรณีหุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ประเภทระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้
(ข) กรณีหุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ประเภทไม่ระบุอัตราดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินร้อยละ 60 ของจำนวนเงินที่ตราไว้
(ค) กรณีหุ้นหรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ง) กรณีหุ้นที่ชำระเต็มมูลค่าแล้วและไม่ได้เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ตราไว้
ข้อ 6. ค่าแปลงสภาพ (Credit Conversion Factor) ของภาระผูกพันแต่ละประเภท
ก. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 100
(1) การรับรอง รับอาวัล และสอดเข้าแก้หน้าตั๋วเงิน
(2) การค้ำประกันการขาย ขายลด หรือขายช่วงลดตั๋วเงิน
(3) การสลักหลังตั๋วเงินแบบผู้รับสลักหลังมีสิทธิไล่เบี้ย (with recourse)
(4) การค้ำประกันการกู้ยืม
(5) สัญญาการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งบริษัทเงินทุนต้องปฏิบัติตามโดยปราศจากเงื่อนไข
(6) การค้ำประกัน การรับประกัน หรือการก่อภาระผูกพันในรูปแบบใด ๆ ของบริษัทเงินทุน อันเนื่องมาจากการขายสินทรัพย์
ข. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 50
(1) ภาระผูกพันซึ่งขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของลูกค้า เช่น ค้ำประกันการรับเหมาก่อสร้าง ค้ำประกันการยื่นซองประกวดราคา เป็นต้น
(2) การประกันการจำหน่ายตราสารหรือหลักทรัพย์
ค. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 20
ภาระผูกพันเพื่อการนำสินค้าเข้ามาตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิต ทั้งที่มีเอกสารประกอบและยังไม่มีเอกสารประกอบ
ง. ค่าแปลงสภาพร้อยละ 0
(1) ตั๋วเงินเพื่อเรียกเก็บ
(2) วงเงินให้กู้ยืมที่ลูกค้ายังมิได้ใช้
(3) ค้ำประกันการออกของ (Shipping Guarantee)
(4) ภาระผูกพันที่บริษัทเงินทุนสามารถบอกเลิกเมื่อใดก็ได้
(5) ภาระผูกพันอื่น ๆ ที่มิได้ระบุค่าแปลงสภาพไว้ในข้อ 6 นี้
จ. ค่าแปลงสภาพสำหรับสัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย (ร้อยละ)
อายุสัญญาที่เหลือ สัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน สัญญาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
ไม่เกิน 14 วัน 0 0
เกิน 14 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี 2.0 0.5
เกิน 1 ปีขึ้นไป 5.0 1.0
สัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ได้แก่สัญญาดังต่อไปนี้
Cross currency interest rate swaps
Forward foreign exchange contracts
Currency option purchases
สัญญาอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน
สัญญาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ได้แก่สัญญาดังต่อไปนี้
Single currency interest rate swaps
Basis swaps
Forward rate agreements
Interest rate option purchases
สัญญาอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน
ในกรณีที่ลูกค้ารายเดียวกันทำสัญญาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนหรือสัญญาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยทั้งทางด้านซื้อและด้านขาย ให้คูณจำนวนเงินด้านซื้อและด้านขายด้วยค่าแปลงสภาพก่อน และนำค่าที่ได้มาหักกลบกัน แล้วจึงนำจำนวนสุทธิไปคูณกับอัตราความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภทตามที่กำหนดในข้อ 5.
ข้อ 7. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2543
(ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ภาคผนวก 1
กลุ่มประเทศ Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) และประเทศที่มีฐานะการเงินเทียบเท่า
ออสเตรเลีย ลักเซมเบิร์ก
ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์
เบลเยี่ยม นิวซีแลนด์
แคนาดา นอร์เวย์
เดนมาร์ก โปรตุเกส
เยอรมันนี ซาอุดีอาระเบีย
ฟินแลนด์ สเปน
ฝรั่งเศส สวีเดน
กรีซ สวิตเซอร์แลนด์
ไอซ์แลนด์ ตุรกี
ไอร์แลนด์ อังกฤษ
อิตาลี สหรัฐอเมริกา
ญี่ปุ่น
ภาคผนวก 2
องค์การระหว่างประเทศ
European Investment Bank (EIB)
European Bank for Reconstruction and Development (EBRD)
International Bank for Reconstruction and Development (IBRD)
including International Finance Corporation (IFC)
Inter-American Development Bank (IADB)
African Development Bank (AfDB)
Asian Development Bank (AsDB)
Caribbean Development Bank (CDB)
Nordic Investment Bank (NIB)
สนสป31-กส22203-25430314ด
-ยก-