การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่ง อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ พ.ศ.2548

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday May 27, 2005 10:22 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                                      27  พฤษภาคม 2548 
เรียน ผู้จัดการ
ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร*
ที่ ฝสว. (21) ว. 47 /2548 เรื่อง การนำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่ง อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2548
ธนาคารแห่งประเทศไทยขอนำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2548 เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่ง อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2548 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป และได้ลงประกาศในราชกิจจานุกเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 122 ตอนพิเศษ 39 ง ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 แล้ว
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้เป็นการขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อหรือให้เช่าแบบลีสซิ่งสำหรับทรัพย์สินที่ธนาคารได้รับโอนมาตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออกไปอีก 2 ปีโดยให้สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2549 โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมและจำกัดเฉพาะหนี้บางประเภทเท่านั้นที่ธนาคารพาณิชย์จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบในการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค)
ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายสถาบันการเงิน
ผู้ว่าการ แทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 4 พ.ค. 48 เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์
ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่ง อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ฯ
ฝ่ายนโยบายความเสี่ยงและวิเคราะห์
โทร. 0-2283-5837, 0-2283-5303, 0-2283-5304
หมายเหตุ [
] ธนาคารจะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่...............ณ......................
[X
] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
_____________________________
* ไม่รวมกิจการวิเทศธนกิจ
ฝสวว10-คส22406-25480527ด
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและ
ให้เช่าแบบลีสซิ่ง อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ พ.ศ. 2548
__________________________
1. เหตุผลในการออกประกาศ
1.1 เพื่อให้การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบในการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
1.2 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2547 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียมในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออกไปอีก 2 ปี โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมและจำกัดเฉพาะหนี้บางประเภทเท่านั้นที่สถาบันการเงินจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว จึงออกประกาศฉบับนี้เพื่ออนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งอันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพิ่มเติม
2. อำนาจตามกฎหมาย
ธนาคารแห่งประเทศไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522 กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ถือปฏิบัติ ตามข้อกำหนดในประกาศนี้
3. ขอบเขตการบังคับใช้
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ยกเว้นกิจการวิเทศธนกิจ
4. เนื้อหา
4.1 ในประกาศฉบับนี้
"ผู้เช่า" หมายความว่า ผู้เช่าซื้อหรือผู้เช่าแบบลีสซิ่ง
"เงินรายงวด" หมายความว่า เงินที่ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระแก่ธนาคารพาณิชย์ในแต่ละงวด ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นดอกผลเช่าซื้อและราคาเงินสดประจำงวดตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อ
"ค่าเช่า" หมายความว่า ค่าเช่าตามสัญญาเช่าแบบลีสซิ่ง
"การปรับปรุงโครงสร้างหนี้" หมายความว่า การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ เป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย เฉพาะลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้น ต่ำกว่ามาตรฐาน สงสัย สงสัยจะสูญ และสูญ ประเทศไทย เรื่อง สินทรัพย์ที่ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ และสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ของธนาคารพาณิชย์ ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2547 และให้รวมถึงหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสำรองครบร้อยละ 100 และตัดออกจากบัญชีแล้วแต่ยังไม่ได้บันทึกกลับเข้ามาในบัญชี
"เช่าซื้อ" หมายความว่า เช่าซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
"การให้เช่าแบบลีสซิ่ง" หมายความว่า การให้เช่าทรัพย์สิน เพื่อให้ผู้เช่าได้ใช้ประโยชน์ในกิจการอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการบริการอย่างอื่นเป็น ทางค้าปกติ โดยผู้เช่ามีหน้าที่ต้องบำรุงรักษาและซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่า ทั้งนี้ ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ แต่ผู้เช่ามีสิทธิที่จะซื้อหรือเช่าทรัพย์สินนั้นต่อไปในราคาหรือค่าเช่าที่ได้ตกลงกัน
4.2 ให้ธนาคารพาณิชย์ให้เช่าซื้อ หรือให้เช่าแบบลีสซิ่ง ซึ่งทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาเพื่อชำระหนี้จากลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน ตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
4.3 การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาเช่าแบบลีสซิ่ง เมื่อผู้เช่าผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดสองงวดหรือค่าเช่าสองงวดติดต่อกัน หรือเมื่อผู้เช่ากระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ ถ้าธนาคารพาณิชย์จะบอกเลิกสัญญา ธนาคารพาณิชย์ต้องแจ้งการบอกเลิกสัญญาพร้อมด้วยเหตุผลเป็นหนังสือให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้เช่าได้รับหนังสือดังกล่าว ในหนังสือบอกเลิกสัญญานั้นให้ระบุด้วยว่าหากผู้เช่าชำระเงินรายงวดที่ค้างชำระหรือแก้ไขการผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญดังกล่าว แล้วแต่กรณี ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญา การบอกเลิกสัญญานั้นเป็นอันระงับไป
ในกรณีที่ผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดสองงวดติดต่อกัน หรือกระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ หากผู้เช่าชำระเงินรายงวดหรือค่าเช่าที่ค้างชำระหรือแก้ไขการผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญา ให้การบอกเลิกสัญญานั้นเป็นอันระงับไป
4.4 เมื่อสิ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ธนาคารพาณิชย์จะประกอบธุรกิจการให้ เช่าซื้อ หรือการให้เช่าแบบลีสซิ่งตามประกาศฉบับนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่ได้
5. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2548
(ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ฝสวป10-คส22401 -25480506 ด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ