ประกาศ ณ วันที่ 16 เมษายน 2561 วันที่ลงในราชกิจจานุเบกษา 17 เมษายน 2561 วันที่มีผลบังคับใช้ 16 เมษายน 2561 วันที่สิ้นสุดผลบังคับใช้ - สถาบันผู้เกี่ยวข้อง
1.กรมบัญชีกลาง
2.ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ
3.ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ
4.บริษัทเงินทุน
5.บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
6.บริษัทหลักทรัพย์
7.สถาบันการเงินเฉพาะกิจ
8.อื่น ๆ
เพื่อกำกับดูแลสมาชิกของระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญ ซึ่งมีการเชื่อมโยงเพื่อทำธุรกรรมและรับส่งข้อมูลในระบบ โดยนำหลักการตามมาตรฐานสากลมาใช้ มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในด้านการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย และการดำเนินการรองรับในกรณีที่สมาชิกของระบบขอฟื้นฟูกิจการหรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือล้มละลาย เพื่อให้สมาชิกมีการบริหารความเสี่ยงและมีการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมและรับส่งข้อมูลในระบบอย่างเหมาะสม รวมถึงมีการเตรียมการรองรับกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องเป็นวงกว้าง (systemic risk) และนำไปสู่การ มีเสถียรภาพของระบบชำระเงินและระบบการเงินโดยรวม
1) การดำเนินการรองรับกรณีสมาชิกขอฟื้นฟูกิจการหรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือล้มละลาย เช่น กรณีที่สมาชิกยื่นคำร้องหรือถูกร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการและศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ หรือถูกฟ้องล้มละลาย หรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ สมาชิกต้องแจ้งผู้ให้บริการและ ธปท. ทราบโดยทันที
2) ด้านการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย เช่น การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ มาตรการ และการดำเนินการตามที่ผู้ให้บริการกำหนดในเรื่อง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและรักษาความลับซึ่งกระบวนการและข้อมูลของระบบ ปฏิบัติตามมาตรการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับระบบ และจัดให้มีแผนฉุกเฉินและทดสอบการปฏิบัติตามแผนฉุกเฉิน
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย