17 มีนาคม 2548
เรียน ผู้จัดการ
ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร*
ที่ ฝกส.(11) ว. 3 /2548 เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม
1. เหตุผลในการออกหนังสือเวียน
(1) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ธนาคารแห่งประเทศไทยขอยกเลิกหนังสือที่ ธปท.สนส.(11)ว. 2221/2545 ลงวันที่ 27 กันยายน 2545 เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม
(2) นำส่งประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ลงวันที่ 4 มีนาคม 2548
2. ฉบับประกาศที่ลงในราชกิจจานุเบกษา
ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 122 ตอนพิเศษ 21 ง วันที่ 11 มีนาคม 2548
3. ขอบเขตการบังคับใช้
ใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ยกเว้นกิจการวิเทศธนกิจ
4. สาระสำคัญของประกาศ
ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับปรุงหลักเกณฑ์ เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม โดยขยายขอบเขตประเภทของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหรือรับโอนมาและคู่สัญญาที่ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ดังนี้
(1) อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้ประเภทให้เช่าซื้อหรือให้เช่าแบบลีสซิ่งได้เพิ่มเติม เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งได้แล้ว เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2547
(2) อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้จากนิติบุคคลได้เพิ่มเติมโดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้ดังนี้
(2.1) การรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและสินทรัพย์อื่นต้องกระทำภายใต้ขอบเขตที่ธนาคารพาณิชย์สามารถกระทำได้ตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์เท่านั้น และธนาคารพาณิชย์จะต้องถือปฏิบัติต่อลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่รับซื้อหรือรับโอนตามหลักเกณฑ์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
(2.2) การรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมนั้น ธนาคารพาณิชย์ต้องมีกระบวนการ
วิเคราะห์และพิจารณาอย่างรอบคอบว่าลูกหนี้เงินให้กู้ยืมดังกล่าวจะสามารถก่อให้เกิดรายได้แก่ธนาคารพาณิชย์ในอนาคต
(2.3) การรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและสินทรัพย์อื่นให้ใช้ราคายุติธรรม(fair value) ซึ่งมีความหมายเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี
(2.4) ธนาคารพาณิชย์ผู้รับซื้อหรือรับโอนต้องกำหนดให้มีหลักเกณฑ์ หรือระเบียบปฏิบัติที่ดี เพื่อป้องกันมิให้กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานกระทำการหรือไม่กระทำการ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
5. วันเริ่มต้นการใช้บังคับ
ประกาศนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป
ขอแสดงความนับถือ
(นางทองอุไร ลิ้มปิติ)
ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายสถาบันการเงิน
ผู้ว่าการแทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ลงวันที่ 4 มีนาคม 2548
ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน
โทร. 0-2283-5305, 0-2283-6875
หมายเหตุ [
] ธนาคารจะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่.........
[X
] ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง
สนสว10-กส37001-25480317ด
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือ
รับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืม
_____________________________
1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์มีความคล่องตัวในการบริหารสินทรัพย์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเห็นควรอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์และของนิติบุคคลอื่น
2. อำนาจตามกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมตามข้อกำหนดในประกาศนี้
3. ขอบเขตการบังคับใช้
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ยกเว้นกิจการวิเทศธนกิจ
4. เนื้อหา
4.1 คำจำกัดความ
ภายใต้ประกาศนี้
"ลูกหนี้เงินให้กู้ยืม" หมายถึง ลูกหนี้ที่เกิดจากการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมปกติของธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคลอื่น ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงลูกหนี้จากการประกอบธุรกิจให้
เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งด้วย
"สถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่ถูกปิดกิจการ" หมายถึง บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุน
หลักทรัพย์ที่ถูกระงับการดำเนินกิจการตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงวันที่26 มิถุนายน พ.ศ. 2540 และวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2540 ซึ่งสั่งโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และคณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินเห็นว่าไม่อาจแก้ไขหรือฟื้นฟูฐานะหรือการดำเนินการได้
"อำนาจควบคุมกิจการ" หมายความว่า
(1) การที่บุคคลหนึ่งมีหุ้นในบริษัทจำกัดหนึ่งเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่
จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือ
(2) การที่บุคคลหนึ่งมีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดหนึ่งไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่ว่าเพราะเหตุอื่นใด หรือ
(3) การที่บุคคลหนึ่งมีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งและถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่ง
ของกรรมการทั้งหมดในบริษัทจำกัดหนึ่ง
ในกรณีที่บุคคลหนึ่งมีหุ้นในบริษัทจำกัดหนึ่งตั้งแต่ร้อยละ 20 ขึ้นไปของจำนวนหุ้น
ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อมและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลที่มีหุ้นดังกล่าวมีอำนาจควบคุมกิจการในบริษัทจำกัดนั้น
4.2 ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมทั้งที่เป็นเงินบาทและเงินตราต่างประเทศได้จากธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคลอื่น
ทั้งนี้ ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่รับซื้อหรือรับโอนมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ธนาคารพาณิชย์ผู้รับซื้อหรือรับโอนนั้นมีอำนาจควบคุมกิจการ จะต้องเป็นลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วและเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติหรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษตามนัยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง สินทรัพย์ที่ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ และสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้
4.3 ธนาคารพาณิชย์สามารถรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและสินทรัพย์อื่นของสถาบันการเงิน 56 แห่งที่ถูกปิดกิจการจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้
4.4 การรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและสินทรัพย์อื่นต้องกระทำภายใต้ขอบเขตที่ธนาคารพาณิชย์สามารถกระทำได้ตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์เท่านั้นและธนาคารพาณิชย์จะต้องถือปฏิบัติต่อลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่รับซื้อหรือรับโอนตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
4.5 การรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมน น ธนาคารพาณิชย์ต้องมีกระบวนการวิเคราะห์และพิจารณาอย่างรอบคอบว่าลูกหนี้เงินให้กู้ยืมดังกล่าวจะสามารถก่อให้เกิดรายได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ในอนาคต
4.6 การรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและสินทรัพย์อื่นให้ใช้ราคายุติธรรม(fair value) ซึ่งมีความหมายเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี
4.7 ธนาคารพาณิชย์ผู้รับซื้อหรือรับโอนต้องกำหนดให้มีหลักเกณฑ์ หรือระเบียบปฏิบัติที่ดี เพื่อป้องกันมิให้ กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานกระทำการหรือไม่กระทำการ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
4.8 ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจยับยั้งหรือสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ธนาคารพาณิชย์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศนี้
(2) กรณีอื่นๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่ากระทบกับความปลอดภัยหรือผาสุก
ของประชาชน
5. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 4 มีนาคม 2548
(ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สนสป10-กส37001-25480308ด