การผ่อนผันการให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์ด้วยมติเอกฉันท์

ข่าวกฏหมายและประกาศ Thursday October 12, 2006 12:07 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                                             12 ตุลาคม 2549
เรียน ผู้จัดการ
ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศทุกธนาคาร
สาขาธนาคารต่างประเทศทุกธนาคาร*
ที่ธปท.ฝนส.(21) ว.1460/2549 เรื่อง การผ่อนผันการให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์ด้วยมติเอกฉันท์
1.เหตุผลในการออกหนังสือเวียน
เพือกำหนดการผ่อนผันเกี่ยวกับให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์ด้วยมติเอกฉันท์
2.อำนาจตามกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(5) และ 22(8) แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 พ.ศ.2528 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้น ตามที่กำหนดในหนังสือเวียนฉบับนี้
3.ขอบเขตการใช้บังคับ
ให้ใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ยกเว้นกิจการวิเทศธนกิจของสาขาธนาคารต่างประเทศ
4.เนื้อหา
ตามข้อ 4.5(2) ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่อง การให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและการให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 กำหนดให้ การให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่ธนาคารพาณิชย์หรือกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของ ธนาคารพาณิชย์นั้นมีผลประโยชน์มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้สินเชื่อแก่ผู้ผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารระดับสูง ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ ธปท.พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้มีความยืดหยุ่นในทางปฏิบัติควรผ่อนผันให้ธนาคารพาณิชย์มอบอำนาจให้คณะกรรมการสินเชื่อหรือคณะกรรมการบริหารเป็นผู้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อหรือการลงทุนดังกล่าวตามเกณฑ์การอนุม้ติสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์กำหนดได้ โดยต้องนำสินเชื่อหรือการลงทุนนั้นเข้าขอรับสัตยาบันจากคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์ในการประชุมครั้งถัดไปและได้รับมติเป็นเอกฉันท์ทุกกรณี สำหรับการให้สินเชื่อหรือลงทุนดังต่อไปนี้
1.การให้สินเชื่อหรือลงทุนในกิจการที่ธนาคารพาณิชย์ถือหุ้นโดยตรงตั้งแต่ร้อยละ 75 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทนั้น เฉพาะบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อ (Credit Institutions) เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่ม Solo Consolidation
2.การใช้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในบริษัทจำกัดที่กระทรวงการคลังหรือส่วนราชการมีอำนาจควบคุมกิจการหรือถือหุ้นเกินร้อยละ 10 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น หรือ
3.การให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่ธนาคารพาณิชย์ หรือกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์นั้นมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์นั้น เฉพาะลูกค้ารายเดิมที่เคยผ่านการอนุมัติของคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์มาแล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม หรือขอวงเงินสินเชื่อใหม่ก็ตาม
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการธนาคารพาณิชย์ไม่ให้สัตยาบันด้วยมติเป็นเอกฉันท์จะถือว่าธนาคารพาณิชย์ไม่ปฏิบัติตามประกาศ ธปท.เรื่อง การให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง และการให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์และ ธปท.จะสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ยกเลิกวงเงินดังกล่าวทันที
5.วันเริ่มต้นใช้บังคับ
หนังสือฉบับนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ลงในหนังสือเป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(นางธาริษา วัฒนเกส)
รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน รักษาการแทน
ผู้ว่าการ
ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง สายนโยบายสถาบันการเงิน
โทร 0-2283-5304, 0-2283-5303
หมายเหตุ [
] ธนาคารแห่งประเทศไทยจะจัดให้มีการประชุมชี้แจงในวันที่....ณ.....
[x
]ไม่มีการจัดประชุมชี้แจง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ