ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่องอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการ
ในจังหวัดสงขลาและสตูล
---------------------
เพื่ออนุวัตตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝกช.(22) ว.2477/2548 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ดังนี้
ข้อ 1.ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตามหนังสือดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินอัตราดังนี้
(1) อัตราดอกเบี้ยให้กู้ยืมประเภทมีกำหนดระยะเวลาสำหรับลูกค้าชั้นดี(MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าชั้นดี(Prime Rate) ของสถาบันการเงินนั้นลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี
(2) กรณีสถาบันการเงินนั้นไม่มีอัตราดอกเบี้ย MLR หรือ Prime Rate ของตนเองให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR ตามประกาศของธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)โดยเฉลี่ย ลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี สำหรับจำนวนเงินที่รับซื้อ
ข้อ 2.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง สำหรับกาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งแห่งระเบียบ
ดังกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2548
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่องอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการ
ในจังหวัดสงขลาและสตูล
---------------------
เพื่ออนุวัตตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝกช.(22) ว.2477/2548 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงประกาศให้ทราบทั่วกัน ดังนี้
ข้อ 1.ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตามหนังสือดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินอัตราดังนี้
(1) อัตราดอกเบี้ยให้กู้ยืมประเภทมีกำหนดระยะเวลาสำหรับลูกค้าชั้นดี(MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าชั้นดี(Prime Rate) ของสถาบันการเงินนั้นลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี
(2) กรณีสถาบันการเงินนั้นไม่มีอัตราดอกเบี้ย MLR หรือ Prime Rate ของตนเองให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR ตามประกาศของธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)โดยเฉลี่ย ลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี สำหรับจำนวนเงินที่รับซื้อ
ข้อ 2.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง สำหรับกาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งแห่งระเบียบ
ดังกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2548
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล)
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย