ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนตุลาคม 2553 (October 2010)

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 7, 2010 11:36 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 209 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออก ในเดือนตุลาคม 2553 มีค่าเท่ากับ 44.3 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป ข้าว เชื้อเพลิงและพลังงาน และ อาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทออาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และ อาหารสำเร็จรูป

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ในเดือนตลาคม 2553 มีค่า 45 5 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว และ อาหารสัตว์เลี้ยง ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และ อาหารสำเร็จรูป

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
           ตุลาคม 53        18.1         66.3        15.6       2.5      51.3
          กันยายน 53        14.6         70.8        14.6       0.0      50.0
          สิงหาคม 53        24.4         61.1        14.5       9.9      54.9

ดัชนีการจ้างงานในเดือนตุลาคม 2553 มีค่าเท่ากับ 51.3 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง

ดัชนีสินค้าคงคลังในเดือนตุลาคม 2553 มีค่า 42.3 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรป ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • ค่าเงินบาทไม่เอื้อต่อการส่งออก กล่าวคือ ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้มีปัญหาเรื่องการส่งออกมาก เพราะขาดทุนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนถึง 10% ของมูลค่าการส่งออก
  • สถานการณ์น้ำท่วมทำให้วัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งสินค้า
  • วัตถุดิบในตลาดโลกขึ้นราคา
  • ขาดแคลนแรงงาน ทั้งมีฝีมือและไร้ฝีมือ ทำให้ผลิตสินค้าไม่ทันตามความต้องการของตลาด
  • น้ำยางดิบมีราคาสูงขึ้น ทำให้ปรับราคาขายได้ยาก
  • ภาษีส่งออกสูง
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
  • รัฐบาลควรดูแลอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้คงที่ พร้อมกับส่งเสริมการส่งออก และเพิ่มอัตราชดเชยภาษีส่งออกตามประเทศคู่แข่ง
  • รัฐบาลควรมีมาตรการควบคุมราคาน้ำมันไม่ให้สูงเกินไป และควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่เป็น FDI ในการลงทุนเพื่อสร้างงานภายในประเทศ
  • รัฐบาลควรกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาที่มาบตาพุด เพื่อให้เกิดความคล่องตัวของธุรกิจก่อสร้าง
  • ดูแลอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ