ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนมกราคม 2554 (January 2011)

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 4, 2011 16:41 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกมีอย่างต่อเนื่อง แต่มูลค่าลดลง

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 212 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออก ในเดือนมกราคม 2554 มีค่าเท่ากับ 49.2 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เครื่องอิเลคทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด/ แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ในเดือนมกราคม 2554 มีค่า 53.7 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด/ แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน และเครื่องอิเลคทรอนิกส์ ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          มกราคม 54        30.6         54.9        14.5      16.1      58.1
          ธันวาคม 53        19.9         64.3        15.8       4.1      52.0
        พฤศจิกายน 53        21.1         64.7        14.2       6.9      53.4

ดัชนีการจ้างงานในเดือนมกราคม 2554 มีค่าเท่ากับ 58.1 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง

ดัชนีสินค้าคงคลังในเดือนมกราคม 2554 มีค่า 51.1 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติก และผลิตภัณฑ์พลาสติก รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเลคทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลัง ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณี และเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • เงินบาทแข็งค่า
  • ขาดแคลนวัตถุดิบและราคาตลาดโลกผันผวน ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถเสนอราคาขายได้
  • ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ทำให้ต้องปรับราคาสูงขึ้น
  • ขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ จำนวนแรงงานต่างด้าวมีไม่เพียงพอ
  • ปัญหาการประท้วงของแรงงานส่งผลต่อระยะเวลาการส่งมอบสินค้า
  • ปัญหาพรมแดนไทย-พม่าและปัญหาการเมืองไม่แน่นอน
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน
  • ควบคุมภาษีสรรพสามิตของน้ำมันเชื้อเพลิง
  • มีนโยบายดึงดูดนักลงทุน เพื่อผลิตวัตถุดิบสินค้าต้นน้ำ
  • พิธีการนำเข้า-ส่งออกมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ