รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำ เดือนกุมภาพันธ์ 2554

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 4, 2011 17:04 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ค่าครองชีพมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ของประเทศ ทั้งส่วนกลาง(กรุงเทพฯและปริมณฑล) และภูมิภาคทั้ง 5 ภาค ยังอยู่ในระดับต่ำ ปัญหาที่ผู้บริโภคกังวลมากที่สุด คือ ราคาสินค้า ราคาน้ำมัน และเศรษฐกิจทั่วไป ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ปรากฏว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมของทั้งประเทศปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา จาก 20.3* เป็น 18.9 แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในระดับต่ำ โดยสะท้อนได้จากค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงมีความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาของสินค้าหลายชนิด เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันปาล์ม ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อของประชาชน ค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงจาก 24.9 เป็น 18.9 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าและค่าครองชีพที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่รายได้ในปัจจุบันไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ปัจจุบันปรับตัวลดลงจาก 12.9* เป็น 11.6 เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความรู้สึกกังวล เกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศอียิปต์ และลิเบีย จะลุกลามไปสู่ประเทศอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในระดับสูงต่อไป

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ในอนาคต (3เดือน) ปรับตัวลดลงจาก 25.2* เป็น 23.8 เป็นผลมาจากสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตและน้ำมันเบนซิน มีการปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย

เมื่อพิจารณาราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศของเดือนกุมภาพันธ์ 2554 พบว่า ราคาน้ำมันเบนซิน(แก๊สโซฮอล์ 95) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาลิตรละ 35.14 บาท เป็น 36.84 บาท ส่วนน้ำ มันดีเซล มีราคาคงตัวอยู่ที่ราคาลิตรละ 29.99 บาท

(ที่มา:บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

  • หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีการปรับปรุงข้อมูลย้อนหลังทุกเดือน ซึ่งจะรายงานในเดือนถัดไป
เมื่อพิจารณาสัดส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรากฏว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2554
  • สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันผู้บริโภครู้สึกว่า “ดีขึ้น” ร้อยละ 12.1 “ไม่ดี” ร้อยละ 65.3
  • สถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคต “คาดว่าจะดีขึ้น” ร้อยละ 16.4 “คาดว่าจะไม่ดี” ร้อยละ 50.3
  • ภาวการณ์หางานทำในปัจจุบันประเมินว่า “หางานง่าย” ร้อยละ 5.5 “หางานยาก” ร้อยละ 67.0
  • ภาวการณ์หางานทำในอนาคตคาดว่า “หางานง่าย” ร้อยละ 6.3 “หางานยาก” ร้อยละ 62.1
  • รายได้ในอนาคต “คาดว่าจะดีขึ้น” ร้อยละ 17.6 และ “คาดว่าจะไม่ดี” ร้อยละ 29.4

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนในทุกภาคยังขาดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจซึ่งมีผลต่อการบริโภคโดยรวมของประเทศ อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา) คือ กรุงเทพฯ/ปริมณฑล จาก 14.5* เป็น 15.7 ภาคเหนือ จาก 22.2* เป็น 26.0 ภาคตะวันออก จาก 15.6* เป็น 18.0 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก 20.9* เป็น 23.5 เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้รายได้และกำลังซื้อของเกษตรกรสูงขึ้นตามไปด้วย รวมทั้ง 9 มาตรการตามนโยบายประชาวิวัฒน์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการบางส่วนแล้ว และนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ทำให้ต้นทุนการขนส่งยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

ส่วนภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง คือ ภาคกลาง จาก 19.0* เป็น 10.4 และภาคใต้ จาก 28.3* เป็น 22.1 เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองภายในประเทศ และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีการปรับปรุงข้อมูลย้อนหลังทุกเดือน ซึ่งจะรายงานในเดือนถัดไป
ปัญหาที่ผู้บริโภคต้องการให้รัฐบาลแก้ไข เป็นดังนี้
                                                                                   หน่วย:ร้อยละ
     พื้นที่          ราคาสินค้า   ราคาน้ำมัน   การว่างงาน   ค่าครองชีพ   เศรษฐกิจทั่วไป   คอรัปชั่น   ยาเสพติด
ประเทศไทย            17.3      17.1       10.5         7.7         10.9        7.7      5.9
กรุงเทพฯ/ปริมณฑล       19.1      17.5       10.8        12.6         11.0        8.1      6.0
ภาคกลาง              17.9      18.8       10.3        10.4         11.5        3.9      4.4
ภาคเหนือ              15.2      15.4       10.1        12.1         10.9        7.9      6.2
ภาคตะวันออก           13.8      15.1       13.3        13.5          9.3       11.5      6.7
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   16.6      17.0        9.0        12.1         10.3        9.4      5.8
ภาคใต้                17.7      17.5       11.3        13.8         11.6        6.5      7.0

ผู้บริโภคในทุกพื้นที่ ต้องการให้แก้ไขปัญหา ราคาสินค้า ราคาน้ำมัน เศรษฐกิจทั่วไป การว่างงาน ค่าครองชีพ คอรัปชั่น และยาเสพติด ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ผู้บริโภคต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาดังนี้

กรุงเทพฯ/ปริมณฑล ต้องการให้แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ราคาน้ำมันและค่าครองชีพ

ภาคกลาง ต้องการให้แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ราคาสินค้าและเศรษฐกิจทั่วไป

ภาคเหนือ ต้องการให้แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเป็นอันดับแรก รองลงมา คือ ราคาสินค้าและค่าครองชีพ

ภาคตะวันออก ต้องการให้แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ ราคาสินค้าและค่าครองชีพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องการให้แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ ราคาสินค้าและค่าครองชีพ

ภาคใต้ ต้องการให้แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ ราคาน้ำมันและค่าครองชีพ

ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

1. ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไม่ให้มีราคาสูงจนเกินไป เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันปาล์ม น้ำตาล ปุ๋ยเคมี

2. ดูแลราคาสินค้าที่เป็นต้นทุนการผลิตสินค้าภาคการเกษตรไม่ให้สูงจนเกินไป

3. ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาหนี้นอกระบบ/ ผู้มีอิทธิพลเถื่อน และปัญหาการคอรัปชั่น

4. ลดปัญหาความเลื่อมล้ำทางสังคม เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน ปรับปรุงโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

5. ดูแลสวัสดิการประกันสังคมและสวัสดิการผู้สูงอายุ/ผู้พิการให้เหมาะสมและพอเพียง รวมทั้งเพิ่มเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ

---------------------------------------

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีการปรับปรุงข้อมูลย้อนหลังทุกเดือน ซึ่งจะรายงานในเดือนถัดไป
การอ่านค่าดัชนี

ระดับของค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดยมีเกณฑ์การอ่านค่า ดังนี้

  • ดัชนีมีค่า เข้าใกล้ 100 หมายถึง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ “ดี”
  • ดัชนีมีค่า เข้าใกล้ 0 หมายถึง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ “ไม่ดี”
ภาคผนวก

1. การจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสะท้อนอำนาจการซื้อของประชาชนในประเทศ ซึ่งพิจารณาจากรายได้ที่แต่ละบุคคลได้รับ โดยใช้หลักการแบ่งกลุ่มอาชีพเป็นการกำหนดรายได้ของประชากรซึ่งใช้ข้อมูลพื้นฐานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่มอาชีพดังนี้ ผู้ที่ไม่ได้ทำงาน กำลังศึกษา เกษตรกร รับจ้างรายวัน/รับจ้าง พนักงานเอกชน นักธุรกิจ และข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ

2. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อสะท้อนให้เห็นอำนาจซื้อที่เกิดขึ้นจริงของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา ใช้เป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า สำหรับเป็นแนวทางในการวางแผนและนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐและเอกชน

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร.0-2507-6553 Fax.0-2507-5806 www.price.moc.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ