ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2554 (February 2011)

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 5, 2011 13:35 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 213 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีค่าเท่ากับ 48.3 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และเครื่องอิเลคทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด/ แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และเชื้อเพลิง และพลังงาน

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีค่า 49.8 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา และเครื่องอิเลคทรอนิกส์ ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด/ แช่เย็น/แช่แข็ง/ กระป๋อง และแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และเชื้อเพลิงและพลังงาน

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          กุมภาพันธ์ 54       27.2         60.2        12.6      14.6      57.3
           มกราคม 54       28.9         55.4        15.7      13.2      56.6
           ธันวาคม 53       19.9         64.3        15.8       4.1      52.0

ดัชนีการจ้างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีค่าเท่ากับ 57.3 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง

ดัชนีสินค้าคงคลังในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีค่า 48.8 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะอุปกรณ์ และส่วนประกอบ เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้ สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป และเชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และเครื่องอิเลคทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
  • ขาดแคลนวัตถุดิบทั้งปริมาณและคุณภาพที่ต้องการ
  • ขาดแคลนแรงงานขั้นต่ำและแรงงานที่มีฝีมือ มีคุณภาพรวมทั้งแรงงานต่างด้าวมีไม่เพียงพอมีการเคลื่อนย้ายของแรงงานเข้า-ออก
  • แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นทำให้บางอุตสาหกรรมขาดแคลนวัตถุดิบหลัก
  • การปิดด่านชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งระบบจัดเก็บภาษีที่ไม่แน่นอน
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • ควบคุมค่าเงินบาทให้คงที่
  • สนับสนุน SME ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ
  • เพิ่มมาตรการประกันความเสียหายของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและควบคุมภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
  • ชดเชยค่าไฟฟ้าแก่ผู้ผลิตเพื่อการส่งออก
  • สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ