ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ไตรมาส 3/2554 (Q3/2011)

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 2, 2011 15:05 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ไตรมาส 3/2554 การส่งออกยังคงมีแนวโน้มดี

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 201 ราย คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 3/2554 (กรกฎาคม — กันยายน) ภาวะการส่งออกและความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มที่ดี โดยดัชนี มีค่า 62.7 และ 63.7 ตามลำดับ

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ผู้ประกอบการส่งออก คาดว่าภาวะการส่งออกในไตรมาสที่ 3/2554 (กรกฎาคม - กันยายน) จะดีขึ้น ร้อยละ 41.8 ไม่เปลี่ยน แปลง ร้อยละ 41.8 และลดลง ร้อยละ 16.4 ทาให้ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก มีค่าเท่ากับ 62.7 แสดงว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดี

สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน และ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก ลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าสาเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ยาง

ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน

ในไตรมาสที่ 3/2554 นักธุรกิจคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น ร้อยละ 37.2 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 53.0 และลดลง ร้อยละ 9.8 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่า 63.7 แสดงว่าผู้ส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขันจะเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็กเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน และ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน ลดลงได้แก่ เสื้อผ้าสาเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ยาง

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออกเดือนมิถุนายน 2554 มีค่า 51.5 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออก ลดลง ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสาเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน

ดัชนีคาสั่งซื้อใหม่

ดัชนีคาสั่งซื้อใหม่เดือนมิถุนายน 2554 มีค่า 49.7 สินค้าที่มีมูลค่าคาสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าสาเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และยางพารา ส่วนสินค้าที่มูลค่าคาสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเล แช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน

ดัชนีสินค้าคงคลัง

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนมิถุนายน 2554 มีค่า 49.2 มูลค่าสินค้า คงคลังที่ ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง และเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน มูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสาเร็จรูป สิ่งทอ ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ยางพารา เชื้อเพลิงและพลังงาน

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          มิถุนายน 54        22.6         59.0        18.4       4.2      52.1
         พฤษภาคม 54        28.8         57.5        13.7      15.1      57.5
          เมษายน 54        27.1         59.6        13.3      13.8      56.9

ดัชนีการจ้างงานในเดือนมิถุนายน 2554 มีค่าเท่ากับ 52.1 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกอยู่ในเกณฑ์ดี

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่คงที่
  • การปรับอัตราค่าจ้างแรงงานอาจทาให้มีการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น
  • ท่าเรือแออัด การจัดการไม่เป็นระบบต่อการขนถ่ายสินค้า
  • สภาพอากาศและภัยธรรมชาติของประเทศคู่ค้า เช่น จีน ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา
  • ความไม่แน่นอนทางการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจในตะวันออกกลาง
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดาเนินการ ดังนี้

  • รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
  • ชดเชยอัตราภาษีส่งออก ปรับปรุงกฎ ระเบียบ และพิธีการนาเข้าและส่งออก
  • ปรับลดค่าธรรมเนียมของบริษัทเรือขนส่งสินค้า
  • พิจารณาชดเชยค่าไฟฟ้าแก่ผู้ผลิตเพื่อการส่งออก
  • พัฒนาแรงงานฝีมือและรับจดทะเบียนแรงงานต่างชาติมากขึ้น

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการ แปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


แท็ก การส่งออก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ