ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนสิงหาคม 2554 (August 2011)

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 6, 2011 16:15 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกยังมีแนวโน้มชะลอตัว

ผลการสารวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 202 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออก ในเดือนสิงหาคม 2554 มีค่าเท่ากับ 48.5 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ในเดือนสิงหาคม 2554 มีค่า 47.7 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก สิ่งทอ ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          สิงหาคม 54        20.3         64.5        15.2       5.1      52.5
         กรกฎาคม 54        25.7         60.2        14.1      11.6      55.8
          มิถุนายน 54        23.0         59.1        17.9       5.1      52.6

ดัชนีการจ้างงานในเดือนสิงหาคม 2554 มีค่าเท่ากับ 52.5 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง

ดัชนีสินค้าคงคลังในเดือนสิงหาคม 2554 มีค่า 46.0 มูลค่า สินค้าคงคลังที่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่คงที่
  • ขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ
  • ความไม่ชัดเจนของนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำ
  • วิกฤตการณ์ทางการเงินในยุโรปและอเมริกา
  • ความล่าช้าที่ท่าเรือกรุงเทพฯและท่าเรือแหลมฉบัง
  • จำนวนเรือขนส่งมีน้อย ค่าขนส่งปรับราคาสูงขึ้น
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
  • ควรปรับค่าแรงขึ้นเป็นระยะๆและตามระดับฝีมือแรงงาน
  • ชดเชยรายได้ผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐ
  • พิจารณาแรงงานต่างชาติให้เข้าทำงานในโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการ แปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ