ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก ( Export Business Index )ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2555 (February 2012 )

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 28, 2012 14:56 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 210 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก
เดือน             %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
กุมภาพันธ์ 55       46.3        26.3        27.4      18.9       59.5
มกราคม 55        37.1        21.3        41.6      -4.5       47.8
ธันวาคม 54        43.3        22.9        33.8       9.5       54.8

ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนกุมภาพันธ์2555 มีค่าเท่ากับ 59.5 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง

ดัชนีคาสั่งซื้อใหม่
เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
กุมภาพันธ์ 55     39.0        31.5        29.5       9.5       54.8
มกราคม 55      36.6        23.8        39.6      -3.0       48.5
ธันวาคม 54      37.6        31.4        31.0       6.6       53.3

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีค่า 54.8 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลงได้แก่ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ เชื้อเพลิงและพลังงาน

ดัชนีการจ้างงาน
เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
กุมภาพันธ์ 55      18.4         63.7        17.9       0.5       50.3
มกราคม 55       19.0         58.0        23.0      -4.0       48.0
ธันวาคม 54       16.8         64.4        18.8      -2.0       49.0

ดัชนีการจ้างงานเดือนกุมภาพันธ์2555 มีค่าเท่ากับ 50.3 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกดีขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง
เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
กุมภาพันธ์ 55       29.6        42.3         28.1      1.5       50.8
มกราคม 55        29.9        32.3         37.8     -7.9       46.0
ธันวาคม 54        24.6        32.9         42.5    -17.9       41.1

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มีค่า 50.8 สินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน อาหารสำเร็จรูป เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
  • ขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ
  • ขาดแคลนวัตถุดิบ
  • ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
  • สภาพเศรษฐกิจโลกและความไม่สงบทางการเมือง

ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
  • ควรปรับอัตราค่าจ้างแรงงานตามมาตรฐานฝีมือ
  • เร่งฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม
  • ชดเชยภาษีแก่ผู้ผลิตเพื่อการส่งออก หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง1 เดือน
ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative)ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


แท็ก 2012  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ