ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก (Export Expectation Index) ประจำเดือนเมษายน 2555 (April 2012)

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2012 13:49 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกชะลอตัว

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 205 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออก
          เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          เมษายน 55      28.1         25.0        46.9     -18.8      40.6
          มีนาคม 55       50.0         20.8        29.2      20.8      60.4
          กุมภาพันธ์ 55     45.8         26.6        27.6      18.2      59.1

ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนเมษายน 2555 มีค่าเท่ากับ 40.6 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่
          เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          เมษายน 55      26.8         32.1        41.1     -14.3      42.9
          มีนาคม 55       48.8         25.8        25.4      23.4      61.7
          กุมภาพันธ์ 55     39.1         31.2        29.7       9.4      54.7

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนเมษายน 2555 มีค่า 42.9 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          เมษายน 55        26.5         54.5        19.0       7.5      53.7
          มีนาคม 55         24.6         57.5        17.9       6.7      53.3
          กุมภาพันธ์ 55       18.2         64.1        17.7       0.5      50.3

ดัชนีการจ้างงานเดือนเมษายน 2555 มีค่าเท่ากับ 53.7 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกดีขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง
          เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          เมษายน 55      25.0         42.6        32.4      -7.4      46.3
          มีนาคม 55       31.5         34.0        34.5      -3.0      48.5
          กุมภาพันธ์ 55     29.8         41.9        28.3       1.5      50.8

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนเมษายน 2555 มีค่า 46.3 สินค้าคงคลังที่ ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เชื้อเพลิงและพลังงาน

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา
  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
  • ขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ
  • การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
  • ความสามารถในการแข่งขันลดลง
  • การขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
  • จัดอบรมวิชาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการภาคอุตสาหกรรม
  • เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางถนนและปรับลดอัตราค่าระวางเรือลง
  • ปราบปรามสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีอย่างจริงจัง

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สาหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


แท็ก 2012   tat  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ