การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 201 ราย ได้ผลดังนี้
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
สิงหาคม 55 38.0 22.0 40.0 -2.0 49.0
กรกฎาคม 55 43.9 22.9 33.2 10.7 55.4
มิถุนายน 55 33.7 20.1 46.2 -12.5 43.7
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนสิงหาคม 2555 มีค่าเท่ากับ 49.0 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
สิงหาคม 55 29.5 33.5 37.0 -7.5 46.3
กรกฎาคม 55 40.3 24.0 35.7 4.6 52.3
มิถุนายน 55 27.6 28.7 43.7 -16.1 42.0
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนสิงหาคม 2555 มีค่า 46.3 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
สิงหาคม 55 19.9 65.8 14.3 5.6 52.8
กรกฎาคม 55 20.1 67.0 12.9 7.2 53.6
มิถุนายน 55 20.9 64.8 14.3 6.6 53.3
ดัชนีการจ้างงานเดือนสิงหาคม 2555 มีค่าเท่ากับ 52.8 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกยังอยู่ในเกณฑ์ดี
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
สิงหาคม 55 29.9 40.7 29.4 0.5 50.3
กรกฎาคม 55 26.0 37.5 36.5 -10.5 44.8
มิถุนายน 55 25.0 41.3 33.7 -8.7 45.7
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนสิงหาคม 2555 มีค่า 50.3 สินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ
- ต้นทุนวัตถุดิบ พลังงาน ค่าขนส่งสูงขึ้นมาก
- การชำระเงินของลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด
- นโยบายแทรกแซงราคาสินค้าเกษตร
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- พัฒนาแรงงานให้เป็นแรงงานมีฝีมือ
- เพิ่มอัตราชดเชยภาษีส่งออกของผู้ประกอบการ
- กำหนดการให้สิทธิประโยชน์การนำเข้า-ส่งออกอย่างชัดเจน
- สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สาหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825
www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th