การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 202 ราย ได้ผลดังนี้
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
พฤศจิกายน 55 30.6 27.6 41.8 -11.2 44.4
ตุลาคม 55 34.4 24.1 41.5 -7.1 46.4
กันยายน 55 36.7 21.6 41.7 -5.0 47.5
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนพฤศจิกายน 2555 มีค่าเท่ากับ 44.4 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ยางพารา เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
พฤศจิกายน 55 29.2 30.8 40.0 -10.8 44.6
ตุลาคม 55 32.5 29.9 37.6 -5.1 47.4
กันยายน 55 34.3 27.3 38.4 -4.1 48.0
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนพฤศจิกายน 2555 มีค่า 44.6 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพาราเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
พฤศจิกายน 55 12.0 74.5 13.5 -1.5 49.2
ตุลาคม 55 16.5 68.0 15.5 1.0 50.5
กันยายน 55 16.9 69.8 13.3 3.6 51.8
ดัชนีการจ้างงานเดือนพฤศจิกายน 2555 มีค่าเท่ากับ 49.2 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกชะลอตัว
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี
พฤศจิกายน 55 26.9 39.4 33.7 -6.8 46.6
ตุลาคม 55 32.0 32.4 35.6 -3.6 48.2
กันยายน 55 25.6 38.5 35.9 -10.3 44.9
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนพฤศจิกายน 2555 มีค่า 46.6 สินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพารา เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในและภายนอกประเทศ
- ผลกระทบจากเศรษฐกิจยุโรปทำให้ความต้องการสินค้าลดลง
- ระบบขนส่งสินค้าล่าช้าทำให้ขนส่งสินค้าไม่ทันกำหนด
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- ควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในเรื่องค่าแรงที่สูงขึ้น
- เร่งรัดการจัดทำข้อตกลง Thai-EU
- ลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก
- ปรับลดภาษีส่งออกยางพาราให้ใกล้เคียงประเทศเพื่อนบ้าน
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5800 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th