ไตรมาส 1/2556 การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 209 ราย คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 1/2556 (มกราคม - มีนาคม) การส่งออกและความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยดัชนี มีค่า 59.4 และ 57.4 ตามลำดับ
ไตรมาส %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี 1/2556 34.2 50.5 15.3 18.9 59.4 4/2555 47.6 34.9 17.5 30.1 65.1 3/2555 41.9 37.2 20.9 21.0 60.5 2/2555 40.9 40.3 18.8 22.1 61.0
ผู้ประกอบการส่งออก คาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 1/2556 (มกราคม - มีนาคม) จะดีขึ้น ร้อยละ 34.2 ไม่เปลี่ยน แปลง ร้อยละ 50.5 และลดลง ร้อยละ 15.3 ทำให้ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก มีค่าเท่ากับ 59.4 แสดงว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดี
สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก ลดลงได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป
ไตรมาส %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี 1/2556 29.6 55.6 14.8 14.8 57.4 4/2555 36.9 51.3 11.8 25.1 62.6 3/2555 33.3 53.3 13.4 19.9 59.9 2/2555 34.8 51.1 14.1 20.7 60.3
ในไตรมาสที่ 1/2556 (มกราคม - มีนาคม) ผู้ประกอบการส่งออกคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น ร้อยละ 29.6 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 55.6 และลดลง ร้อยละ 14.8 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่า 57.4 แสดงว่าผู้ส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขันจะ สูงขึ้นได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็กเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขันลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน
ไตรมาส %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี ธันวาคม 55 37.4 29.1 33.5 3.9 51.9 พฤศจิกายน 55 31.5 27.1 41.4 -9.9 45.1 ตุลาคม 55 34.4 24.1 41.5 -7.1 46.4
ดัชนีมูลค่าส่งออกเดือนธันวาคม 2555 มีค่า 51.9 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออก ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี ธันวาคม 55 35.0 33.9 31.1 3.9 51.9 พฤศจิกายน 55 29.7 30.2 40.1 -10.4 44.8 ตุลาคม 55 32.5 29.9 37.6 -5.1 47.4
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เดือนธันวาคม 2555 มีค่า 51.9 สินค้าที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ยางพารา ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี ธันวาคม 55 27.3 42.5 30.2 -2.9 48.5 พฤศจิกายน 55 27.0 38.0 35.0 -8.0 46.0 ตุลาคม 55 32.0 32.4 35.6 -3.6 48.2
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนธันวาคม 2555 มีค่า 48.5 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ ยางพารา
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี ธันวาคม 55 12.7 71.6 15.7 -3.0 48.5 พฤศจิกายน 55 12.1 74.3 13.6 -1.5 49.2 ตุลาคม 55 16.5 68.0 15.5 1.0 50.5
ดัชนีการจ้างงานในเดือนธันวาคม 2555 มีค่าเท่ากับ 48.5 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกชะลอตัวลง
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและแรงงานไร้ฝีมือ
- การแข่งขันด้านราคาภายในและต่างประเทศ
- ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าจ้างแรงงาน ราคาพลังงานสูงขึ้น
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
- พัฒนาแรงงานให้เป็นแรงงานมีฝีมือ
- พิจารณาให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับค่าระวางเรือ
- พิจารณาอัตราชดเชยภาษีส่งออกให้ใกล้เคียงกันในกลุ่มอาเซียน
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5811-13 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th