ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ไตรมาส 2/2556 (Q2/2013)

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 5, 2013 14:41 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ไตรมาส 2/2556 การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 201 ราย คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2/2556 (เมษายน - มิถุนายน) การส่งออกและความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยดัชนี มีค่า 57.7 และ 55.2 ตามลำดับ

ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก                  ไตรมาส 2/2556 = 57.7
  ไตรมาส         %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  2/2556         33.3       48.8      17.9      15.4     57.7
  1/2556         34.2       50.5      15.3      18.9     59.4
  4/2555         47.6       34.9      17.5      30.1     65.1
  3/2555         41.9       37.2      20.9      21.0     60.5

ผู้ประกอบการส่งออก คาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 2/2556 (เมษายน - มิถุนายน) จะดีขึ้น ร้อยละ 33.3 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 48.8 และลดลง ร้อยละ 17.9 ทำให้ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก มีค่าเท่ากับ 57.7 แสดงว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดี

สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก ลดลงได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน            ไตรมาส 2/2556 = 55.2
  ไตรมาส         %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  2/2556         27.1        56.2      16.7      10.4     55.2
  1/2556         29.6        55.6      14.8      14.8     57.4
  4/2555         36.9        51.3      11.8      25.1     62.6
  3/2555         33.3        53.3      13.4      19.9     59.9

ในไตรมาสที่ 2/2556 (เมษายน - มิถุนายน) ผู้ประกอบการส่งออกคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น ร้อยละ 27.1 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 56.2 และลดลง ร้อยละ 16.7 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่า 55.2 แสดงว่าผู้ส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน สูงขึ้นได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน ลดลงได้แก่ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว

ดัชนีมูลค่าส่งออก                                    มี.ค.56 = 58.6
  เดือน          %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  มีนาคม   56    46.5        24.2      29.3      17.2     58.6
  กุมภาพันธ์ 56    34.5        34.9      30.6       3.9     51.9
  มกราคม  56    35.6        26.3      38.1      -2.5     48.8

ดัชนีมูลค่าส่งออกเดือนมีนาคม 2556 มีค่า 58.6 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออก ลดลงได้แก่ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รองเท้าและชิ้นส่วน ข้าว ยางพารา

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่                                     มี.ค.56 = 57.1
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  มีนาคม   56      41.8       30.6      27.6      14.2      57.1
  กุมภาพันธ์ 56      32.0       35.0      33.0      -1.0      49.5
  มกราคม  56      34.8       28.4      36.8      -2.0      49.0

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เดือนมีนาคม 2556 มีค่า 57.1 สินค้าที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ลดลงได้แก่ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว ยางพารา

ดัชนีสินค้าคงคลัง                                      มี.ค.56 = 48.7
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  มีนาคม   56      27.5       42.4      30.1      -2.6      48.7
  กุมภาพันธ์ 56      19.8       48.3      31.9     -12.1      44.0
  มกราคม  56      26.9       44.7      28.4      -1.5      49.3

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนมีนาคม 2556 มีค่า 48.7 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สิ่งทอ รองเท้าและชิ้นส่วน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ดัชนีการจ้างงาน                                        มี.ค.56 = 52.6
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  มีนาคม 56        17.3       70.5      12.2       5.1      52.6
  กุมภาพันธ์ 56      12.1       71.0      16.9      -4.8      47.6
  มกราคม 56       15.5       68.0      16.5      -1.0      49.5

ดัชนีการจ้างงานในเดือนมีนาคม 2556 มีค่าเท่ากับ 52.6 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกเพิ่มขึ้น

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา
  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
  • ขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและแรงงานไร้ฝีมือ
  • การแข่งขันด้านราคาภายในและต่างประเทศ
  • ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองต่างประเทศ
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
  • มีแหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  • มีมาตรการช่วยเหลือในเรื่องค่าจ้างแรงงาน
  • พัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

โทร.0 2507 5811-13 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825

www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th


แท็ก การส่งออก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ